รีวิวซีรี่ส์ Our Blues (2022)

รีวิวซีรี่ส์ Our Blues (2022)

รีวิวซีรี่ส์ Our Blues (2022)

[gap]

[ux_video url=”https://www.youtube.com/watch?v=MDJVHUY7Wlo”]

[gap]

[title style=”center” text=”รีวิวซีรี่ส์ Our Blues (2022)” tag_name=”h2″ color=”rgb(255, 160, 46)”]

[gap]

เป็นอีกครั้งที่ รีวิวซีรีส์ดราม่า เกาหลีจะพาเราสู่เมืองริมทะเลอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นเกาะเชจู กับภาพที่ค่อนข้างมุ่งเน้นโทนสีฟ้าไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเลหรือเสื้อผ้าของนักแสดง แต่เรื่องราวก็แฝงไว้ด้วยความเศร้าเคล้าด้วยการฮีลใจ เพราะมันมีคำว่า Blue ปนอยู่ในนั้น ผมกำลังจะบอกเล่าถึงซีรีส์เกาหลี ดูหนังออนไลน์ เรื่องใหม่ทางเน็ตฟลิกซ์ ‘Our Blues’ ชื่อไทย ‘เวลาสีฟ้าหม่น’ นั่นเองครับ

มันเป็นผลงานการเขียนบทของ No Hee Kyung/โนฮีคยอง ผู้ที่เคยฝีไม้ลายมือไว้กับซีรีส์ ‘Live’ และเป็นผลงานการกำกับของ Kim Kyu Tae/คิมคยูแท ผู้ที่เคยทำ ‘Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo’ จนโด่งดัง ครั้งนี้พวกเขาร่วมมือกันสร้างซีรีส์ที่บอกเล่าหลากหลายชีวิตบนเกาะเชจู เรื่องราวชีวิตที่มีทุกรสชาติ และแน่นอนว่าหนีไม่พ้นความหม่นเศร้า เพราะมันคือชีวิต

มันเป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนเก่าที่เคยเติบโตมาด้วยกันบนเกาะเชจู เริ่มที่ ชเวฮันซู (Cha Seung Won/ชาซึงวอน จากซีรีส์ ดูหนังฟรี  ‘One Ordinary Day’, ‘A Korean Odyssey’ และ ‘You’re All Surrounded’) ชายหนุ่มที่มีรอยยิ้มอันสดใสในวันวาน แต่วันนี้ แววตานั้นดูหม่นเศร้า

[gap]

[ux_image id=”4746″]

[gap]

[title style=”center” text=”รีวิวซีรี่ส์ Our Blues (2022) ซีรี่ส์ดี” tag_name=”h2″ color=”rgb(255, 160, 46)”]

[gap]

ขาเป็นผู้จัดการสาขาของธนาคารแห่งหนึ่งที่ได้โอกาสย้ายมาสาขาบ้านเกิด เขาพยายามเต็มที่เพื่อชดใช้หนี้สินด้วยเพราะมุ่งหวังจะเห็นความสำเร็จในอาชีพนักกอล์ฟของลูกสาว เบื้องหน้า เขาคือนายธนาคารผู้น่านับถือ แต่เบื้องหลังเขาคือคนที่ต้องแบกหน้าไปหยิบยืมเงินแม้กระทั่งน้องสาวของตนเอง

ในวันนี้ เขากลับมาเกาะเชจูอีกครั้ง ได้พบเจอกับจองอึนฮี (Lee Jung Eun/อีจองอึน จากซีรีส์​ ‘When the Camellia Blooms’, ‘Once Again’ และหนัง ‘Parasite’) วันนี้ เธอกลายเป็นแม่ค้าปลาที่ร่ำรวย โสด และดูเธอจะยังไม่ลืมรักแรกอย่างฮันซู ขณะที่เพื่อนเก่าของเธอย่างโกมีรัน (Uhm Jung Hwa/ออมจองฮวา จากซีรีส์ ‘You Are Too Much’ และ ‘A Witch’s Love’) ก็กลับมาหลังจากเบื่อหน่ายชีวิตในเมืองใหญ่เช่นกัน

ปัจจุบันของอีดงซอก (Lee Byung Hun/อีบยองฮอน จากซีรีส์ ‘Squid Game’, ‘Mr. Sunshine’ และ ‘IRIS’) เขาคือชายผู้ขายทุกสิ่งทุกอย่างที่พอจะขนได้บนรถพุ่มพวง ชายผู้น่าสงสารที่ไม่ยอมพูดจากับแม่ของตนเอง เขาเคยมีความรู้สึกพิเศษให้กับสาวกรุงโซล มินซอนอา (Shin Min A/ชินมินอา จากซีรีส์ ‘Hometown Cha-Cha-Cha’, ‘Chief of Staff’ และ ‘My Girlfriend is Gumiho’) คนที่ทิ้งลูกไว้ที่โซลแล้วย้ายตัวเองมายังเกาะเชจู

[gap]

[ux_image id=”4747″]

[gap]

[title style=”center” text=”รีวิวซีรี่ส์ Our Blues (2022) ซีรี่ส์น่าดู” tag_name=”h2″ color=”rgb(255, 160, 46)”]

[gap]

ขณะที่อียองอ๊ก (Han Ji Min/ฮันจีมิน จากซีรีส์ ‘One Spring Night’ , ‘Familiar Wife’ และหนัง ‘Josee’) เธอเป็นแฮนยอ (นักดำน้ำหญิงที่ทำงานจับสัตว์ในทะเล) และมีข่าวลือข่าวฉาวมากมาย แต่ด้วยบุคลิกที่สดใส ทำให้พัคจองจุน (Kim Woo Bin/คิมอูบิน จากซีรีส์ ‘Uncontrollably Fond’ และ ‘The Heirs’) ชายหนุ่มหัวใจอบอุ่นผู้มีอาชีพเป็นกัปตันเรือหาปลาเลือกจะสนใจเธอ

เรื่องราวที่เกิดในเมืองที่เป็นเกาะ หันไปทางไหนมีแต่สีครามของท้องฟ้าและน้ำทะเล สีเขียวของต้นไม้ใบหญ้า ผู้คนก็ดูจะผิดแผกไปจากคนกรุงโซลที่เราเคยคุ้นกันจากซีรีส์เรื่องอื่นๆ ชีวิตชนบทที่แตกต่างไปจากเมืองใหญ่ ผู้คนที่นั่นรู้จักกันหมด แถมชอบจะพูดคุยนินทาและเป็นห่วงเป็นใยต่อกันไม่เหมือนคนเมืองหลวง ชีวิตของคนที่นั่นอาจเหมือนจะสุขสงบ แต่ที่จริงก็เจือไว้ด้วยความเจ็บปวด ไม่ว่าจะอยู่มาตั้งแต่เกิด หรือย้ายเข้ามาหลบเลียแผลใจก็ตามแต่

14 ตัวละครที่มีช่วงเวลาบอกเล่าตนเอง โดยทั่วไป เราก็จะเห็นว่าซีรีส์จะเน้นตัวหลักเป็นพระนาง แล้วก็มีตัวรองลงมา และเรื่องราวจะจบลงก็ต่อเมื่อพระนางได้รับคำตอบของการลงเอย แต่กับซีรีส์เรื่องนี้ ดูไม่เหมือนเรื่องอื่นๆ เพราะเขาไม่มีพระเอก-นางเอกของตัวเอง แต่กลับให้ทุกตัวละครต่างได้แสดงบทบาทและมีช่วงเวลาอันโดดเด่นของตนเอง รวมทั้งหมดแล้วก็ประมาณได้ 14 ตัวละครด้วยกัน มันจึงกลายเป็นซีรีส์ที่มีความยาว 20 ตอนนั่นยังไง

[gap]

[ux_image id=”4748″]

[gap]

[title style=”center” text=”เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนเก่าที่เคยเติบโตมาด้วยกัน” color=”rgb(255, 160, 46)”]

[gap]

ในแต่ละตอนจะตั้งชื่อตอนตามเรื่องราวที่โฟกัสเป็นคู่ๆ ไป อย่างใน 3 ตอนแรก จะเป็นคู่ของ “ฮันซูกับอึนฮี” เรื่องราวของคู่เพื่อนเก่าที่อึนฮีฝ่ายหญิงที่มีฮันซูฝ่ายชายเป็นรักแรกมาก่อน ก่อนที่ฝ่ายชายจะย้ายไปอยู่โซล ฝ่ายหญิงก็ทำมาหากินอยู่ที่เดิม ชีวิตคนทั้งสองเปลี่ยนไปมาก ก่อนที่การกลับมาพบกันอีกครั้งจะสร้างเรื่องใหม่ๆ ที่อาจทำให้พวกเขาหาคำตอบให้กับตนเอง หลังจากนั้นก็หันไปเน้นเล่าโฟกัสคู่ต่อไป

แต่ก็ไม่ใช่แค่นั้น เพราะในระหว่างที่โฟกัสคู่หนึ่งอยู่ ก็จะเดินเรื่องของตัวละครตัวอื่นๆ ไปพร้อมๆ กันด้วย แต่ละตัวละครต่างก็มีส่วนร่วมในความเป็นไปของตัวละครที่รับบทเด่นในตอนนั้นๆ ซีรีส์เรื่องนี้จึงไม่มีพระเอกนางเอกที่แท้จริง ไม่ต่างกับชีวิตคนเรา ที่แต่ละคนต่างก็เป็นตัวเอกในเรื่องราวชีวิตของตนเอง

ตัวละครที่เป็นคนธรรมดา ตัดสินใจและกระทำแบบคนธรรมดา และเมื่อ รีวิวซีรีส์ดราม่าน่าดู มันไม่มีพระนาง มันก็ยิ่งไม่จำเป็นที่ตัวละครหลักๆ จะต้องคิดและทำในแบบอย่างที่พระนางในความคิดของคนดู ทุกอย่างจึงหลุดออกไปกรอบแนวคิดที่ยึดถือกันมา ที่พระนางจะต้องเป็นคนคิดดี ทำดี ตัดสินใจในสิ่งที่เป็นแบบอย่าง เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง

แต่ละตัวละครคือชีวิตจิตใจของคนหนึ่งคน คือคนธรรมดาที่อาจจะคิดหรือทำถูกผิดได้ เหมือนที่เราเจอในตัวเพื่อนหรือคนรอบตัวที่อาจมีความคิดที่เราไม่ชอบใจ ไม่เห็นด้วย มองหน้าพลางส่ายหัว ตัวละครในเรื่องนี้ก็เช่นกัน พวกเขาจึงดูมีความเป็นมนุษย์ ย่อมมีความคิด มีการตัดสินใจ และการกระทำที่อาจขัดกับความรู้สึกของคนดูไปบ้าง ก็เป็นธรรมดา

[gap]

[ux_image id=”4749″]

[gap]

[title style=”center” text=”ลองไปติดตามรับชมกันดูนะเผื่อจะติดใจ” color=”rgb(255, 160, 46)”]

[gap]

แต่ละคนล้วนถูกหล่อหลอมมาจากประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่เล็กจนโต จากสังคมและพื้นเพที่แตกต่าง ไม่มีทางที่หนึ่งคนจะคิดเหมือนกับเราได้ทั้งหมด แต่ทางที่เขาหรือเธอเลือกเดินนั้นจะนำพาชีวิตของพวกเขาไปในทางไหน จะพบเจอบทเรียนอะไรที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาได้พบกับคำตอบนั่นต่างหาก ที่คนเขียนบทต้องการจะสื่อให้เราได้รับรู้กัน

การดูซีรีส์เรื่องนี้ จึงไม่ใช่แค่การติดตามนักแสดงที่เราชื่นชอบได้เล่นในบทที่เราอยากดู แต่เป็นการนั่งมองชีวิตที่อาจพบเจอได้รอบตัวเรา และหยิบเอาเรื่องราวของเขามาเป็นบทเรียน เพื่อจะได้ไม่ต้องทำผิดพลาด เสียใจ และเสียน้ำตาแบบนั้นอีกนั่นเอง

เต็มไปด้วยนักแสดงที่มาปล่อยของ หลายคนอาจเป็นห่วงถึงค่าตัวของนักแสดง แต่เราเชื่อว่าเมื่อเขาคิดจะทำซีรีส์ในแนวทางนี้ เขาคงคิดมาแล้วว่ามันจะสามารถสร้างได้ เลยมองว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไรกับเรื่องพรรค์นั้น สิ่งที่คนดูจะได้น่าจะเป็นเรื่องกำไรที่จะได้เห็นพวกเขาได้สำแดงฝีมือออกมาประชันกันเสียมากกว่า

ผ่านไปเพียงไม่กี่ตอน นักแสดงบางคนก็ฉายแววให้เห็นแล้วว่าสวมบทบาทไว้ดีแค่ไหน อย่าง ชาซึงวอน กับ อีจองอึน ที่รับบทเป็น ชเวฮันซู กับ จองอึนฮี ที่วัยเด็กฝ่ายหญิงแสดงออกนอกหน้าว่าชอบฝ่ายชาย แต่เมื่อโตขึ้นมากลับกลายเป็นฝ่ายชายกลายเป็นนายธนาคารที่หนี้สินล้นพ้นตัว จนต้องบากหน้ามาชักชวนฝ่ายหญิงที่กลายเป็นแม่ค้าปลาสุดร่ำรวยไปทริปแห่งความทรงจำด้วยกัน

[gap]

[ux_image id=”4750″]

[gap]

ซึ่งคนดูย่อมรู้ดีว่า ทริปครั้งนี้ฮันซูมีจุดมุ่งหมายเช่นใด การตัดสินใจของอึนฮีจึงมีแต่สายตาที่ไม่เห็นด้วยของกลุ่มเพื่อนและคนดู ทั้งสองคนต่างเล่นด้วยสีหน้า แววตาที่บ่งบอกชัดถึงความรู้สึกข้างใน พาคนดูอินไปกับความรู้สึกที่ท่วมท้นอยู่ในใจของทั้งสองฝ่าย แค่คู่เดียวก็กินขาดซะแล้ว

ในระหว่างนั้น รีวิวซีรีส์ดราม่าน่าติดตาม ก็ปูความสัมพันธ์ของตัวละครอื่นๆ ไปพร้อมกันด้วย ก่อนที่พวกเขาจะมีช่วงเวลาเด่นเป็นของตัวเอง ยังไงก็ต้องให้เวลาแต่ละคน แต่ละคู่ได้ฉายแสง ก็เขาเล่ายาวถึง 20 ตอนไง เดี๋ยวถึงตอนที่คุณรอคอย อีกอย่างที่ควรคิดถึงก็คือ จงสนใจที่บทและการแสดงครับผม

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ Our Blues / เวลาสีฟ้าหม่น / 우리들의 블루스
ผู้กำกับ Kim Kyu Tae/คิมคยูแท (เจ้าของผลงาน ‘Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo’, ‘Live’ และ ‘It’s Ok, This is Love’)
ผู้เขียนบท No Hee Kyung/โนฮีคยอง (เจ้าของผลงาน ‘Dear My Friends’, ‘That Winter, The Wind Blows’ และ ‘Padam Padam’)
นักแสดง Lee Byung Hun/อีบยองฮุน, Shin Min A/ชินมินอา, Cha Seung Won/ชาซึงวอน, Lee Jung Eun/อีจองอึน, Uhm Jung Hwa/ออมจองฮวา, Han Ji Min/ฮันจีมิน, Kim Woo Bin/คิมอูบิน
แนว/ประเภท Drama / Romantic
จำนวนตอน 1 ซีซัน: 20 ตอน
ช่องทางรับชม Netflix
เริ่มออกอากาศ 9 เมษายน – 12 มิถุนายน 2022
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ tvN, Netflix
เวลาสีฟ้าหม่น