รีวิวหนัง Fistful of Vengeance

รีวิวหนัง Fistful of Vengeance

รีวิวหนัง Fistful of Vengeance

 

 

Fistful of Vengeance หนังแอ็คชั่นแฟนตาซี บวกดราม่านิดๆ หนังของ Netflix ที่เหมือนจะมาสานต่อจากหนังเรื่อง Wu Assasins กับการตามล่าเพื่อแก้แค้นให้กับเจนนี่ในใจกลางเมืองมหานครกรุงเทพ แต่กลับกลายเป็นว่าไค และเพื่อนๆ ต้องไปพัวพันกับการคื้นชีพของบรรพบุรุษที่ต้องการจะครอบครองโลกใบนี้

Fistful of Vengeance ถือเป็นหนังออริจินัล Netflix ที่แตกหน่อต่อยอดมาจากซีรีส์ Wu Assassins ในปี 2019 ซึ่งสร้างออกมาแค่ซีซั่นเดียวแต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่เนื่องจากตอนท้ายของซีรีส์ตั้งใจจะทิ้งปมเอาไว้ สร้างซีซั่นต่อไป โดยยังได้นักแสดงหลังจากเวอร์ชั่นเดิม เสริมทัพด้วยนักแสดงหน้าใหม่เข้าไป ที่สำคัญตลอดทั้งเรื่องถ่ายทำอยู่ที่ประเทศไทยทั้งเรื่องด้วยนะ ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนัง Fistful of Vengeance

 

รีวิวหนัง Fistful of Vengeance

หากไม่ดูซีรีส์มาก่อน ผู้ชมก็สามารถเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนัง Fistful of Vengeance ได้ไม่ยาก โดยหลังจากที่ไค (อิโก อูไวส์) เชฟหนุ่มในเมืองซานฟรานซิสโก ผู้ได้รับพลังวิทยายุทธที่เรียกว่า “หวูซิง” (5 ธาตุ) มาเพื่อใช้ปราบคนชั่วในคราบของแก๊งมาเฟีย หลังจากต่อกรมาพักใหญ่ ถึงเวลาที่เขาต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เพื่อสืบหาว่าใครกันที่อยู่เบื้องหลังการวางแผนฆ่าน้องสาวของเพื่อนซี้อย่างทอมมี่ (ลอว์เรนซ์ เกา)

หลังจากบุกเข้าไปในไนต์คลับ ไคและหลู่ซิน (เลวิส แทน) ค้นพบว่ามีเหล่าผีดิบที่พยายามสูบชีวิตจากผู้คนไปเติมพลังงานให้กับตัวเอง และมีความเกี่ยวพันโยงใยกับกู่ อัน ฉี (หญิง รฐา โพธิ์งาม) นางพญาแห่งโลกมืดประจำกรุงเทพฯ โดยการทำภารกิจให้ลุล่วง พวกเธอต้องพึ่งพาปรีญา (ฟรานเชสก้า คอร์นีย์) ในการนำทาง Fistful of Vengeance HD

ตัวหนังไม่มีอะไรที่ยากเย็นต่อการทำความเข้าใจ ยังไม่รวมไปถึงบทภาพยนตร์ที่เรียกได้ว่าเดินเรื่องเป็นเส้นตรง แบ่งแยกขาวดำชัดเจน ซึ่งจุดประสงค์หลักของหนังเรื่องนี้คือการขายฉากแอ็คชั่นแบบศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว (Martial Arts) ในทุกรูปแบบ ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวหนัง Fistful of Vengeance

 

หนังภาคต่อสุดมัน

ซึ่งลักษณะในการเล่าฉากแอ็คชั่น จะเล่าเป็นเหตุการณ์ยาวๆต่อเนื่องกัน อาทิ ตัวละคร ฉากต่อสู้กันที่ดาดฟ้าตึก ไล่ล่ากันลงมาถึงลานจอดรถยันโถงล็อบบี้ ก่อนจะให้คนดูพักเหนื่อยกันสักครู่ แล้วเหล่าตัวร้ายก็จะโผล่ขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยที่ตลาดสด เพื่อฟาดฟันกันต่ออีกรอบ  Fistful of Vengeance netflix

สิ่งที่น่าชื่นชมคือระดับงานโปรดักชั่น ซึ่งมีทีมงานเบื้องหลังเป็นคนไทย ในการอำนวยความสะดวกให้กับทีมงานต่างชาติอีกที นอกจากนี้บรรดาฉากวิวทิวทัศน์ต่างๆในเรื่องที่เรียกได้ว่ามีตั้งแต่บนยอดตึกสูง คอนโดมิเนียมหรูในกรุงเทพฯ ฉากตลาด ลำคลอง แม่น้ำเจ้าพระยา ไปจนถึงถ้ำ มีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด จนกรุงเทพฯ ในหนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึกราวกับดินแดนสนธยาสำหรับชาวต่างชาติยิ่งนัก (ถ้าจะบอกว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์อันแสนลึกลับก็คงไม่ผิด)

ตัวซีรีส์ Wu Assasins นั้นเป็นซีรีส์เกรดบี มีซีซั่นเดียว และถูกยกเลิกซีซั่นสอง เพราะมันไม่ปังและไปต่อไม่ได้จริงๆ แต่ด้วยเหตุอันใดก็ตาม มันก็กลับมาอีกครั้งหนึ่งในรูปแบบภาพยนต์ ซึ่งไม่ได้ต่างอะไรกับเวอร์ชั่นซีรีส์มากเลย เพิ่มเติมคืองานภาพและโปรดักชั่นแบบจัดเต็ม รวมถึงฉากโหด 18+ ให้สะใจเล่นๆ  ดูหนังฟรี

 

 

จากเรื่องราวออริจินัล ถูกสรรสร้างโดยฝรั่ง ที่อยากทำหนังแนวแอ็กชั่นกังฟู ผสมแฟนตาซี เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจด้วยว่ามุมมองของหนังคือ มาจากฝรั่งที่ชอบความเป็นเอเชีย มันเลยไม่ได้ถายทอดความเป็นเอเชีย วัฒนธรรม กังฟู พลังภายในอะไร เรียกง่ายๆ ว่ามันคืองานสนองนี้ดคนที่่ชอบอะไรแนวนี้ เหมือนกับหนังแอ็กชั่นยุคเก่าๆ แบบ มอร์ทัลคอมแบทของปี 90-2000 เทือกๆ นั้น Fistful of Vengeance เรื่องย่อ

ตัวเนื้อเรื่องไม่มีอะไรมากเลย แค่เป็นการกลับมารวมตัวของตัวละครที่คุ้นหน้าคุ้นตา ถ้าหากใครเคยดูซีรีส์มาก่อน กลับมารวมทีม แอ็กชั่น ต่อสู้ กู้โลก แฮปปี้เอ็นดิ้งตามสูตรสำเร็จ แม้จะมีการพยายามพล็อตทวิส หักมุม แต่มันก็เดาได้อยู่แล้วและแทบไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลยด้วย หรือการล่อลวงให้ฝั่งตัวเอกแตกคอกัน เหตุผลก็ง่อยมาก ยัดเข้ามาดื้อๆ แบบข้างๆ คูๆ เพื่อเปิดให้ไปฉากสุดท้ายเฉยๆ แทบไม่ต้องคิดอะไรเลย

การดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง เล่าแบบตรงไปตรงมาง่ายๆ พวกพระเอก ต้องการรู้ข้อมูลตรงนี้ เลยเข้าไปสืบ ต่อสู้ เจอบอส แพ้ก่อนรอบแรก แล้วก็หนี แล้วก็ไปพักฟื้น เจอบุก ก็เลยต้องรวมพลังกันไปกำจัดบอส คือมันไม่มีอะไรซับซ้อนจริงๆ แม้จะมีความแฟนตาซี มันก็ไม่ได้นำเสนออะไร  ดูหนังออนไลน์

 

 

ช่วงแรกค่อนข้างน่าสนใจเกี่ยวกับพล็อตของตัวร้ายหลักฝาแฝด ที่ต้องการคืนชีพบรรพบุรุษ เปรียบเสมือนเป็นหยินและหยาง มีความเชื่อมโยงกับตัวพระเอก นักฆ่าแห่งวู แต่สุดท้ายบอสมันก็กระจอกง่อกง่อย ให้พวกพระเอกกระทืบเล่นในตอนท้าย

เนื่องจากตัวบทมันอ่อน ผู้กำกับก็เหมือนจะรู้ตัวก็เลยใส่ฉากแอ็กชั่น มันส์ๆ เพลินๆ ให้ทั้งเรื่อง ตัดคั่นสลับกับดราม่านิดๆ หน่อยๆ ที่ทำให้เรื่องมันดำเนินต่อไปได้ มีทั้งไล่ล่ากลางกรุงเทพ ขี่เรือหางยาวติดเครื่องยนต์ไล่กัน ซึ่งทำออกมาได้สนุกใช้ได้ Fistful of Vengeance พากย์ไทย

แต่ตัวฉากแอ็กชั่นต่อยตี ที่เป็นหัวใจหลักสำคัญเลยมันทำออกมาได้ไม่สุดเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่ตัวพระเอก ไค และ หลู่ซิน (Lewis Tan) เป็นดารานักบู๊แนว เล่นจริงเจ็บจริงอยู่แล้ว แต่ฉากต่อยตีมันก็พยายามใช้กังฟูแบบฝืนๆ ไม่ได้ดูเท่ คือออบแบบฉากต่อสู้ได้ค่อนข้างธรรมดามากนั่นแหละ แถมยังใช้มุมกล้องเร็วๆ ช่วยอีกต่างหาก ตามสไตล์หนังแอ็กชั่นฝรั่งเลย

ส่วนตัวเลยรู้สึกเสียของและความสามารถของ อิโก อูไวส์ มาก เพราะเขาโด่งดังมาจากหนังแอ็กชั่นแนวดิบๆ เรียลๆ อย่างเรื่อง The Raid (ทั้งสองภาคมีใน Netflix ไปหารับชมได้) พอมาต่อสู้แบบแฟนตาซี มีจี้จุด ปล่อยพลังคลื่นลมปราณมันกลับทำให้ตัวนักแสดง ไม่สามารถแสดงศักยภาพที่แท้จริงของเขาได้ดีพอ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เวอร์ชั่นซีรีส์แล้ว  ดูหนังฟรี

 

 

สรุปเนื้อหาของหนัง

แต่ว่าอย่างน้อยบางฉาก บางซีนก็ทำออกมาเพื่อโชว์เลือดให้สะใจ เช่นมีการยิงปืนทะลุสมอง ปาดคอ หรือเอาคุณยาย่าหญิงของเราที่เป็นบอสใหญ่มาจัดการอย่างอนาถ ก็ทำเอาเสียวไส้และพอใช้ได้ มันเลยทำให้ภาพยนต์เรื่องนี้มีความรุนแรง รวมถึงฉากเลิฟซีนที่มีการเห็นหน้าอก  Fistful of Vengeance รีวิว

บทพูดในเรื่องก็ไม่ได้รับการขัดเกลามา หลายๆ ฉากมันฟังดูแปลกๆ ดูเป็นหนัง ไม่ธรรมชาติ ทำให้ตัวประกอบก็ดูแข็งๆ แต่ก็พอมองข้ามไปได้ แต่บทพูดของนักแสดงแบบ รวมพลัง หรืออะไรแนวๆ นี้ บางทีฟังดูมันก็ชวน Cringe จนคิดในใจว่า ขอทีเถอะน่า แต่ด้วยความที่ฉากหลังของเรื่องเกิดขึ้นที่ประเทศไทย บางตัวละครก็มีการพูดไทย และตัวหนังเองก็มีพากย์ไทยให้รับชมด้วยเช่นกัน

สุดท้ายมันก็คือภาพยนต์ที่ทำเอามันส์ สนองนี้ดฝรั่งที่ชอบกังฟู ชอบความเป็นเอเชีย ตัวละครในเรื่องคือคนเอเชีย แต่หนังทำในมุมมองฝรั่ง แอ็กชั่นมันเลยไม่สุด พอดูเพลินๆ ได้ ยิ่งเรื่องตัวบทก็ยิ่งอ่อนปวกเปียก กลายเป็นดูเอามันส์จากฉากโหดๆ และความสวยงามของประเทศไทยในมุมมองฝรั่งที่พยายามถ่ายทอดความเป็นเอเชียออกมาเท่านั้น  รีวิวหนังดราม่า

สรุป Fistful of Vengeance สนุกและดีไหม
ดูฉากแอ็กชั่นและงานภาพพร้อมบรรยากาศกรุงเทพของไทยได้แบบเพลินๆ แต่ตัวบทนั้นอ่อนมากจนไม่สามารถทำให้มันเป็นหนังแอ็กชั่นที่ดีได้

เกี่ยวกับ “กำปั้นคั่งแค้น” (Fistful of Vengeance)

กำหนดฉาย: 17 กุมภาพันธ์ 2565
ความยาว: 90 นาที
กำกับการแสดงและเขียนบท: Roel Reine
นักแสดง: Iko Uwais, Lewis Tan, Lawrence Kao, JuJu Chan, Jason Tobin, Pearl Thusi, Francesca Corney, Tony Kranz และ หญิง รฐา โพธิ์งาม
สถานที่ถ่ายทำ: ประเทศไทย