รีวิวหนัง Nemesis คืนยุติ-ธรรม
https://www.youtube.com/watch?v=7qZPZvpwAVo
คืนยุติ-ธรรม 2020 เป็นหนังที่มีการบรรยายเนื้อหาที่เสียดสีสังคมแบบจริงจังมาก เรื่องราวเกี่ยวกับผู้คนบางกลุ่มไม่ได้รับความยุติธรรมทั้งๆที่พวกเขาสมควรที่จะได้รับ นำมาซึ่งเกิดเหตุการณ์ท้วงความยุติธรรมขึ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นของผู้กำกับหน้าใหม่อย่าง โน้ต – กัณฑ์ปวิตร ภูวดลวิศิษฏ์ ที่มาพร้อมกับนักแสดงมากฝีมืออย่าง ก๊อต – จิรายุ ตันตระกูล, ปูเป้ – รามาวดี นาคฉัตรีย์, แพร – ณัฎฐธิดา ดำรงวิเศษพาณิชย์, อาร์ต ตลก6ฉาก – ศิลป์ รุจิรวนิช และ ซูโม่กิ๊ก – เกียรติ กิจเจริญ
โดยในหนังเรื่อง คืนยุติ-ธรรม จะเล่าถึง “มานพ” (ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล) ชายหนุ่มที่สูญเสียภรรยาสุดที่รักอย่าง ดวงใจ แต่กลับตกเป็นผู้เป็นต้องหาในคดีฆ่าภรรยาตัวเองจนเขาต้องติดคุก หลังจากออกจากคุกเขาได้พบกับ “กานดา” (ปูเป้ รามาวดี นาคฉัตรีย์) จิตแพทย์สาวที่อาสาเข้ามาเยียวยาอาการป่วยทางจิตใจของเขา แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปเธอกลับค้นพบว่า มานพ มีสองบุคลิกที่จะลุกขึ้นมาตั้งตนเป็นศาลเตี้ยเพื่อทวงความยุติธรรมแก่สังคมด้วยความรุนแรงในตอนกลางคืน และนำไปสู่ความจริงที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด
รีวิวหนัง Nemesis คืนยุติ-ธรรม
มาถูกที่ถูกเวลาสุดๆกับหนังเรื่อง หนังคืนอยุติธรรม นี้ มันแปลกใหม่มากๆสำหรับวงการหนังไทยที่กล้าเล่นกล้าเล่ากับสิ่งที่มันสะท้อนสังคมที่ตรงไปตรงมาแบบนี้ เนื้อเรื่องเข้มข้นพอสมควรแบบที่เราเกือบจะคาคเดาไม่ได้เลยทำให้หนังเรื่องนี้ดูมีความน่าสนใจมากขึ้นมากเลยทีเดียว ด้านนักแสดงต้องปรบมือให้กับ ก๊อท เพราะแสดงได้ยอดเยี่ยมมากมีการทำการบ้านมาอย่างดีกับบทบาทของ
เขาที่ต้องเป็นคนสองบุคลิกนั้นอันนี้ประทับใจ แสดงดีจนน่ากลัวเลยแหละ ส่วนฉากแอ็คชั่นใหญ่ของหนังก็ใช้ได้อยู่ อาจจะมีข้อให้ติบ้างแต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรในการรับชมอย่างแน่นอน และสิ่งที่อยากจะเตือนคนที่จะไปดูนิดหน่อยนั้นก็คือมุมกล้องของหนังเรื่องนี้ในช่วงแรกๆนั้นอาจจะพาคนดูเวียนหัวได้เพราะสิ่งที่หนังนำเสนอในช่วงแรกมันมาจากการกล้องวีดีโอนั้นเอง องค์ประกอบโดยรวมค่อยข้างโอเค แสงสีสวยให้อารมณ์หนังของต่างประเทศเลย บอกตามตรงหนังเรื่องนี้เหมาะสมกับการไปดูในโรงภาพยนต์มากๆ รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
“มานพ” (ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล) ชายหนุ่มผู้มีอนาคตอันสดใสทั้งเรื่องการงาน และความรัก และกำลังจะแต่งงานกับ “ดวงใจ” แต่อนาคตของเขากลับต้องพังทลาย เมื่อ ดวงใจ โดนเจ้านายที่ชื่อ “สิทธิชน” (กิ๊ก เกียรติ กิจเจริญ) ข่มขืน ทำให้มานพโกรธแค้นจึงไปทำร้ายสิทธิชนที่บริษัท นำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเมื่อสิทธิชนพลั้งมือยิงดวงใจตาย ส่วนมานพได้รับบาดเจ็บสาหัส และตื่นขึ้นมาพร้อมตกเป็นผู้เป็นต้องหาในคดีฆ่าภรรยาตัวเองจนเขาต้องติดคุก
หลังจากออกจากคุกเขาได้พบกับ “กานดา” (ปูเป้ รามาวดี นาคฉัตรีย์) จิตแพทย์สาวที่อาสาเข้ามาเยียวยาอาการป่วยทางจิตใจของเขา แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปเธอกลับค้นพบ มานพ อีกคนที่เธอไม่รู้จัก ที่ลุกขึ้นมาตั้งตนเป็นศาลเตี้ยทวงความยุติธรรมแก่สังคมด้วยความรุนแรงในทุกค่ำคืน ยิ่งค่ำคืนล่วงเลยความรุนแรงก็ทวีความโหดเหี้ยมจนกลายเป็นการนองเลือด และนำไปสู่ความจริงปริศนาที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด >>ดูหนังฟรี<<
หลังจากหนัง นมัสเตอินเดีย ส่งเกรียนไปเรียนพุทธ เมื่อปี 2555 ในฐานะผู้สร้างหนังอินดี้ ผกก. กัณฑ์ปวิตร ภูวดลวิศิษฏ์ ก็ไม่ได้มีผลงานลงโรงหนังยาวมาอีก 8 ปี ก่อนจะกลับมาแบบพลิกแนวจากสายสว่างมาแนวนัวร์๋ดำเมี่ยมในหนังทวงหาความยุติธรรมแบบแอนตี้ฮีโรไทย ใน คืน-ยุติธรรม
เนื้อเรื่องอันเข้มข้นของ คืนยุติ-ธรรม
สิ่งที่ต้องบอกหลังจากดูจบคือ หนังมีกลิ่นความเป็น พี่อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ซึ่งมาเป็นโพรดิวเซอร์ของหนังอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะความเข้มข้นของดราม่าและธริลเลอร์ ยิ่งเรื่องการใช้โรคทางจิตมาเป็นปมขยายเรื่องให้มีหักไปหักมาอย่างมีนัยสำคัญก็ด้วย แต่กระนั้นภาพรวมของโพรดักชันก็ยังรู้สึกว่าหนังมีคุณภาพที่แกว่งไปมาระหว่างหนังมาตรฐานฉายโรง และหนังโทรทัศน์
ซึ่งอาจเป็นข้อด้อยของหนัง ที่บางส่วนพึ่งซีจีแล้วสร้างความสมจริงได้ไม่เนียนตานัก ฉากบางฉากดูเป็นเซ็ตประดิษฐ์ชัดเจน ในขณะที่บางฉากก็ทำได้ดีละเกือบดีมาก ๆ เพลงมีความเกินเบอร์ในฉากบางฉากอยู่เยอะ ราวกับจะช่วยสุดกำลังให้ซีนต่าง ๆ น่าสนใจอยู่ตลอดเรื่องเหมือนกลัวคนดูเบื่อ >>เว็บดูซีรี่ย์ฟรี<<
และ ที่น่าจะปรับปรุงมากสุดก็น่าจะเป็นการตัดต่อช่วงแรกของหนังที่เห็นค่อนช้างชัดว่าเอามากลบเกลื่อน และโกงการเล่าเรื่องหลายชั้นให้คนดูเข้าใจได้ง่ายขึ้นแต่ต้น ทั้งการใช้ข้อความเล่าว่านี่เป็นการย้อนอดีตถึงเหตุการณ์ฆ่าหลายศพในคืนเดียวที่ถูกเรียกขานว่า คืนยุติ-ธรรม แล้วยังต้องเล่าชั้นต่าง ๆ ที่ตัดสลับไปพร้อมกัน ทั้งตัวเหตุการณ์คืนยุติ-ธรรม/ เหตุการณ์ที่ทำให้มานพติดคุก/ เรื่องราวก่อนหน้าที่หมอกานดามารักษามานพ/ เรื่องราวของหมอกานดาที่ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนหลังคดี คืนยุติธรรม pantip คือหนังมีหลายชั้น และพยายามหลอกล่อคนดูให้ประหลาดใจกับข้อมูลที่ซ่อนไว้ จนทำให้การเล่าเรื่องที่ควรเคลียร์ ๆ อย่างน้อยแยกช่วงเวลาต่าง ๆ ให้ขาดกันด้วยภาพหรือเทคนิคทางภาพยนตร์ กลายเป็นเล่นท่ายากเกินจำเป็นและคนดูต้องปะติดปะต่อช่วยผู้สร้างหนังค่อนข้างพอสมควร แต่ทั้งนี้ก็หนัก ๆ เพียงช่วงแรกที่เรายังมึนกับวิธีเล่าของมัน พอจับทางเรื่องได้ตรงจุดนี้ก็จะไม่เป็นปัญหามากนัก
มาถึงสิ่งที่ต้องชื่นชมบ้าง ประการแรกคงเป็นความหาญกล้าในการนำเสนอเรื่องราวแนวดราม่าธริลเลอร์ โดยจับประเด็นเรื่องความอยุติธรรมต่าง ๆ ที่คุ้นหูคุ้นตาในข่าวต่าง ๆ มาประดิษฐ์ประสมใหม่ให้เข้มข้นน่าสนใจ ชวรรู้ชวนดูได้ สร้างพื้นที่ใหม่ ๆ ให้วงการหนังไทยได้แก้เลี่ยนบ้าง และต่อเนื่องมาให้ชื่นชมคือการเขียนบทที่ใส่ใจพยายามให้มีลูกเล่นมากกว่าตีหัวเข้าบ้าน ตรงนี้ขอชื่นชมในความพยายามใส่ใจในการเขียนบท ซึ่งหนังไทยยุคใหม่ ๆ เริ่มให้ความสนใจตรงนี้กันมากขึ้น หมดแล้วยุคที่เอาหน้าหนัง เอาดารานำแล้วบทหนังจะเป็นอย่างไรก็ได้ ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่ดูถูกคนดู น่าจะตรงสุด (แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าบทมันดีเลิศนะ)
ส่วนที่ขอชมสุดลิ่มหัวใจต้องยกให้การสร้างตัวละครที่ดี และเหล่านักแสดงนำที่ตอบสนองกับการเป็นตัวละครได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ ก๊อตในบทบาทของมานพจัดว่าทำการบ้านเรื่องคนที่มีอาการทางจิตดีมาก ๆ ชอบสุด ๆ ในตอนที่เป็นมานพ ถึงจะดรอปเรื่องเทคนิคการแสดงลงมาบ้างเมื่อกลายเป็นอีกตัวละคร แต่โดยรวมน่าประทับใจมาก ๆ นอกจากนี้ดาราสมบทอื่น ๆ ทั้งหน้าใหม่ทั้งรุ่นเก๋าต่างก็นำเสนอตัวละครผ่านการแสดงได้น่าสนใจ และไม่ค่อยเห็นในหนังไทยมากนักด้วย มีความอินเตอร์มาก ๆ ในการสร้างบุคลิกตัวละครให้มีชีวิตจิตใจขึ้นมา
บทสรุปของหนัง คืนยุติ-ธรรม
ความรู้สึกหลังดูจบ: หนังไม่แย่แต่ก็ไม่ได้ดีมาก อยู่ระดับกลางๆ การดำเนินเรื่อง และบทถือว่าดี และแปลกใหม่ถ้าเทียบกับหนังไทยปกติแต่ถ้าให้เอาตรงๆยังยากที่จะเทียบหนังต่างประเทศและหนังยังมีช่องโหว่หลายจุด แต่ถ้าว่างและอยากสนับสนุนหนังไทยก็ไปดูได้ไม่เสียดายเงินแน่นอน
ข้อดี: บทช่วงกลางถึงท้ายเรื่องสนุกใช้ได้ มีความบู๊ ๆ ปรัชญาเบา ๆ ถ้าเทียบกับหนังไทยหลาย ๆ เรื่องถือว่าบทมีชั้นเชิงดี มีความดีพบ้างให้รู้สึกกว่าหนังมันไม่แบน ทำให้รู้สึกได้เลยว่าผู้สร้างพยายามจริงๆ ก็อต จิรายุ เล่นดีมากนะส่วนใหญ่ค่อนข้างเดือดได้อารมณ์อยู่ถึงบางช่วงจะรู้สึกว่าบทพูดมันติด ๆ ขัด ๆ หรือบางทีมันออกอนิเมะไปหน่อย การเดินเรื่องก็ดีในช่วงท้ายรู้สึกว่า มาสนุกจริง ๆ ก็ช่วงนี้แหละ งานโปรดักชั่นถือมีคุณภาพนะการจัดแสงหรืองานภาพต่างดูดีในระดับต่างชาติได้เลย แต่ฉากหรือพร็อพบางอย่างในเรื่องมันดูจืด ๆ แบบไม่ได้มีอะไรโดดเด่นอะไรมากเหมือนละครมากกว่าหนัง ถ้ามีความซีนีมาติกมากกว่านี้ จะทำให้ซีนแต่ละซีนสวยมาก แต่รวมๆก็ยังดูรวย แบบไม่ขนาดลูกสุลต่านแต่ดูดีไม่ขัดใจ
>>เว็บหนังออนไลน์ฟรีHD<<
ข้อเสีย: ในส่วนนี้อาจจะขอติเยอะเพราะมันเป็นหนังไทย เรื่องแรกเลยคือการเดินเรื่องที่ไม่นับช่วงท้ายดูค่อนข้างน่าเบื่อ และช่องโหว่เยอะมาก แบบจู่ๆ พระเอกก็มีไอ้นั่นไอ้นี่แบบงง ๆ แถมหนังยังจบเร็วเกินไปทำให้เวลาเล่ามันน้อยมากก ผมคิดว่าถ้าเป็นหนังยาว 2 ชั่วโมง ผมเชื่อว่ามันจะอินกว่านี้มาก ต่อมาคือเรื่องตรรกะเรื่องนี้คือระดับพอ ๆ กับ vagabond แต่มั่วกว่านิดนึง ดูไปเรื่อยๆ ถึงกับอุทานพระเอกเอ็งเป็นใครกันแน่วะเนี่ย เพราะแทบไม่มีการอธิบายแผนการอะไรเลยในเรื่อง จู่ ๆ เราก็แค่ต้องตามพระเอกไปฆ่าคนแบบมึน ๆ ทำให้หนังดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล ต่อมาเรื่องการแสดง ส่วนตัวไม่ค่อยชอบการแสดงของนางเอกเท่าไหร่ เพราะแสดงออกมาไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เวลาดูแล้วรู้สึกว่า แสดงไม่ได้เข้าถึงตัวละครขนาดนั้น แถมตัวละครฝั่งตัวร้ายบทจางมาก คืนยุติธรรม ย้อนหลัง
เหมือนมาเป็นกระสอบทรายเฉยๆ ไอ้ตัวบอสก็คือกระจอกมาก คือคาแรคเตอร์ดีมากนะน่าหมั่นไส้สุดๆ แต่บทไม่ค่อยมีอะไรเลย ต่อมาเลยเรื่องมุมกล้องที่บางซีนพยายามไปจนดูไม่รู้เรื่อง และมีไอ้ฉากยิงปืนที่เราเห็นในตัวอย่างหนังที่ตัวหนังใช้ มุมกล้องเป็นแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่งเหมือนในเกมยิงปืน ในฉากนี้คืออุทานเลยว่าใช้ทำไม เพื่ออะไรละมันมีแค่ฉากนั้นฉากเดียวด้วย สุดท้ายเรื่องเสียง และดนตรีประกอบก็มีหลุดบ้างบางฉากน่าจะอัดพลาดแต่ไม่ว่ากันเพราะมีน้อยมากๆ แต่ แต่ แต่ ดนตรีประกอบในช่วงแรกของหนังมันจะบิ้วท์อะไรนักหนา เกิดมาไม่เคยดูหนังเรื่องไหนแล้วรู้สึกว่าดนตรีประกอบมันเยอะเกินไปขนาดนี้ >>รีวิวหนังดราม่า<<
ภาพยนตร์เรื่อง: คืนยุติ-ธรรม / Nemesis
ผู้กำกับภาพยนตร์: โน้ต – กัณฑ์ปวิตร ภูวดลวิศิษฏ์
โปรดิวเซอร์: อุ๋ย – นนทรีย์ นิมิบุตร
นักแสดงนำ: ก๊อต – จิรายุ ตันตระกูล, ปูเป้ – รามาวดี นาคฉัตรีย์, แพร – ณัฏฐธิดา กลิ่นสุวรรณ, อาร์ต – ศิลป์ รุจิรวนิช, ซูโม่กิ๊ก – เกียรติ กิจเจริญ
ดนตรีประกอบ:
ความยาว: 89 นาที
ปี: 2020
แนว/ประเภท: Crime, Thriller
อัตราส่วนภาพ:
ประเทศ: ไทย
เรท: ไทย/น15+, MPAA/-
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 12 สิงหาคม 2020
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: M Pictures
