รีวิวหนัง The Twilight Saga Eclipse

รีวิวหนัง The Twilight Saga Eclipse

รีวิวหนัง The Twilight Saga Eclipse

 

 

ในที่สุดก็มาถึง ภาคที่ 3 ต้องเกริ่นก่อนเลยว่าภาคนี้ไม่ได้มีแต่ฉากรักหวานฉ่ำเหมือนภาคก่อนๆแน่นอน เพราะว่าในภาคนี้ตัวนางเอกตัดสินใจที่จะ “เปลี่ยน” ตัวเองให้กลายมาเป็นพวกเดียวกันกับเอ็ดเวิร์ด

ไม่ทันได้เตรียมตัวอะไรนัก กับการดูหนังหนนี้ หลังภาคที่แล้วของ The Twilight Saga เล่นเอาหมดความสนใจจะติดตามต่อ แต่เมื่อถึงเวลาจริง ก็ต้องตามใจคนข้างๆ ไปดูหนัง แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 เต็มเรื่อง พากย์ไทย 

เดินทางอย่างรีบร้อนด้วยภารกิจหลายอย่างเกิน ในที่สุด ก็พาตัวเองไปถึงโรงหนังเจ้าประจำจนได้ และแล้วก็ได้พบว่า โรงหนังขนาดใหญ่ คลาคล่ำไปด้วยผู้ชมที่เข้ามาจนเกือบเต็มโรง เหลือไว้เพียงไม่กี่แถวด้านหน้าเท่านั้น

The Twilight Saga : Eclipse คือภาคที่สามที่สร้างจากนิยายขายดีที่ครองใจคนอ่านมาทั่วโลก เมื่อมาสร้างเป็นหนังก็ครองใจไม่แพ้กัน แต่ดูท่าจะครองใจสาวๆ และผู้ชายหัวใจสาวๆ เสียมากกว่านะ เว็บหนังฟรี

 

รีวิวหนัง The Twilight Saga Eclipse

 

รีวิวหนัง The Twilight Saga Eclipse

หลังจากสังเกตกลุ่มผู้ชมที่อยู่รายรอบ ก็พบว่า ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่มักมากันเป็นกลุ่ม หรือไม่ก็มากับแฟน มีบ้างที่เป็นผู้ชายมาคนเดียว และพบว่าเด็กนักเรียนผู้ชายสามสี่คนเดินมาเป็นกลุ่มด้วย ซึ่งก็ท่าทางแมนๆ อยู่ จากที่คิดว่า จะเป็นหนังที่กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิงก็อาจจะถูกเป็นบางส่วน แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 free Movie

ภาคที่สาม “Eclipse” ถึงคราวอาทิตย์อับแสง ถูกจันทร์ดวงใหม่บังเอาไว้ ความหมายของชื่อภาคที่ผมเองก็ยังไม่เข้าใจนัก ต่อเนื่องมาจาก “New Moon” จันทร์ดวงใหม่ที่เลี่ยนได้โล่ห์ และจำฝังใจได้ดีกับสาวอวบเท้าเหม็นคนข้างๆ มาภาคนี้ แทบจะไม่ได้ตั้งความคาดหวังอะไรไว้เลย แถมไม่ได้อยากจะดูเลยด้วยซ้ำ แต่การณ์กลับเป็นว่า กลายเป็นเรื่องดีที่ได้ดู เพราะพบว่า ภาคนี้ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้เยอะพอสมควรทีเดียว

หนังเริ่มต้นเรื่องได้อย่างฉับไว เล่าเรื่องราวที่ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป ผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกทำร้ายโดยผู้ที่มองไม่ทันเห็นด้วยสายตามนุษย์ ก่อนนอนทุรนทุรายกลางสายฝน และก่อนที่กลับเข้าเส้นเรื่องเดิมและตัวละครเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย

พระเอกหน้าขาวแสนหล่อ (Edward Cullen แสดงโดย Robert Pattinson) นางเอกหน้าคมแสนสวย (Bella Swan แสดงโดย Kristen Stewart) และ พระเอกหน้าเข้มร่างบึ้ก (Jacob Black แสดงโดย Taylor Lautner) ผู้ก่อคดีรักสามเส้าของมนุษย์สามสายพันธุ์  เว็บดูหนังฟรี

มุกต่างๆ ยังคงมีใส่เข้ามาเรียกเสียงหัวเราะ และก็ทำงานได้ดี เรื่องราวของหนุ่มสาวที่กำลังก้าวข้ามไปยังสู่ความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว สุนทรพจน์ในเรื่องยังคงโดนใจ วัยรุ่น วัยแห่งการลองถูกลองผิด ทั้งหมดจะเป็นประสบการณ์ที่หลอมรวมกัน เพื่อ “การเลือก” ที่เหมาะกับตัวเองในวันข้างหน้า

 

รีวิวหนัง The Twilight Saga Eclipse

 

เรื่องราวความรักของ มนุษย์ แวมไพร์ และ มนุษย์หมาป่า

การเลือกที่อยู่ในบริบทของมนุษย์สาวแสนสวย เธอจะเป็นอะไรดี ระหว่างเป็นมนุษย์ดังเดิม เป็นแวมไพร์ร่างเย็นๆ แต่เป็นอมตะ หรือจะมนุษย์หมาป่าร่างอุ่นเผาผลาญไว เธอจะเลือกอย่างระหว่าง ชายหนุ่มสองคน แถมคนละสายพันธุ์ เธอต้องถามหัวใจตัวเอง เลือกอย่างที่เหมาะกับตัวเอง คำตอบมีอยู่ในนั้น ใน Eclipse

มาภาคนี้นอกจากจะดำเนินเรื่องได้ฉับไว ไดอะล็อกหวานๆ ของคู่พระนางก็หายไป มีแต่ถ้อยคำที่ใกล้เคียงมนุษย์ปุถุชนพูดกันมากขึ้น เรื่องราวก็ยังมีเนื้อมีหนังมากขึ้น มีชั้นมีเชิงมากขึ้น นอกเหนือไปจากภาพสวยๆ และซีจีเนียนๆ ที่มาพร้อมกับการตัดต่อที่ถูกจังหวะ ฉากการต่อสู้ ฉากการวิ่งไล่ แวมไพร์ ทไวไลท์ 3

เรื่องเล่าถึง เบลล่า (Kristen Stewart) ที่กำลังตกที่นั่งลำบากเพราะเคยให้คำสัญญากับเจน (Dakota Fanning) ว่าจะหาทางให้เอ็ดเวิร์ด (Robert Pattinson) เปลี่ยนเธอเป็นแวมไพร์ให้ได้ เพราะว่ามนุษย์ไม่ควรล่วงรู้ความลับของตระกูลคัลเลน (ที่เป็นแวมไพร์) และในขณะเดียวกันเบลล่าก็ต้องรับมือกับความรู้สึกตัวเองที่ยังอยู่ท่ามกลางความอึดอัดที่ต่อเนื่องจากภาคที่แล้วเพราะยังอยู่ท่ามกลางความรักที่มีให้เอ็ดเวิร์ด และความรู้สึกที่ยังผูกพันธ์กับเจคอบ (Taylor Lautner)

หนังเริ่มต้นด้วยมีมนุษย์ถูกทำร้าย และฆาตกรก็หายเข้าไปในเงามืด ทิ้งปมไว้ให้คนดูคิดตามว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นหนังก็ค่อย ๆ ปล่อยมุกฮา ๆ มาบ้าง สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้ดี ภาคนี้ทั้งเอ็ดเวิร์ด และเบลล่า ก็ต่างมีความโตขึ้นมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น หนังพยายามสอดแทรกถึงความคิดของเบลล่าเป็นหลัก กับความต้องการที่จะเปลี่ยนเป็นแวมไพร์รวมถึงพยายามเรียนรู้ชีวิตนั้น เว็บดูหนัง

หรือจะเป็นมนุษย์หมาป่าเลือดอุ่น ๆ ซึ่งดำเนินไปพร้อมกับความรักที่ไม่รู้จะเลือกใครดี คนดูก็เอาใจช่วย และหมั่นไส้นางเบลล่าไปด้วยในตัว ว่าเธอจะโชคดีไปแล้วนะ แต่หนังเหมือนจะหลอกคนดูโดยปูทางให้เห็นว่า เลือกเจคอบเหมือนจะดีกว่านะ เพราะทั้งอบอุ่น และมีประโยชน์ในหน้าหนาวมาก กอดอุ่นดีอะไรประมาณนี้

 

รีวิวหนัง The Twilight Saga Eclipse

 

หลังจาก เอ็ดเวิร์ด คัลเลน (โรเบิร์ต แพตตินสัน) และ เบลล่า สวอน (คริสเตน สจ๊วต) มีชีวิตรอดกลับมาอย่างปลอดภัย ชีวิตรักของพวกเขาทั้งคู่ก็ดูเหมือนว่าจะกลับมาหวานฉ่ำอีกครั้ง ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างเบลล่า และ เจคอบ แบล็ก (เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์) กลับห่างเหินกันมากขึ้น ในขณะที่พิธีจบการศึกษาของเบลล่าใกล้เข้ามาก็เริ่มมีเรื่องประหลาดมากมายเกิดขึ้นอีก หนัง แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 พากย์ไทย เต็มเรื่อง

ครั้งนี้คัลเลนต้องเผชิญหน้ากับกองทัพแวมไพร์เกิดใหม่ที่ วิคตอเรีย (ราเชล เลอเฟอริม) สร้างขึ้นมาล้างแค้นให้กับสามีของเธอ แต่แวมไพร์เกิดใหม่มีความกระหาย และพลังทำลายล้างสูง พวกมันแข็งแกร่งจนครอบครัวเลนไม่สามารถที่จะเอาชนะ ได้ฝูงหมาป่าจึงยอมยุติความขัดแย้งชั่วคราว และร่วมต่อสู้อีกแรง ขณะที่ทั้งสองเผ่าพันธ์ุกำลังเตรียมการรับมืออยู่นั้นความสัมพันธ์ระหว่างเบลล่า,

เอ็ดเวิร์ด และเจคอบก็กลับมายุ่งเหยิงอีกครั้ง หลังเจคอบรู้พันธะสัญญาของเบลล่าอย่างบังเอิญด้วยความตั้งใจของเอ็ดเวิร์ด แน่นอนว่าเขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเปลี่ยนใจของเธอทุกวินาทีที่มีโอกาสเพราะการแสดงออกต่าง ๆ ของเบลล่าทำให้เจคอบคิดว่าเขายังมีหวังและสามารถโน้มน้าวเธอได้ แต่ตัวเบลล่าเองก็มีจิตใจแข็งแกร่งราวภูเขาสูงชันที่ไม่อาจพังลงง่าย ๆ เว็บหนังฟรี

ศึกใหญ่ครั้งนี้ทำให้เผ่าควิลยูต และคัลเลนต้องยุติข้อตกลงชั่วคราว และจับมือกันร่วมต่อสู้กับกองทัพแวมไพร์ของวิคตอเรียที่มีเป้าหมายคือเบลล่า นั่นแสดงให้เห็นว่าเบลล่าเป็นที่รักของพวกเขาทั้งสองกลุ่มค่ะ เมื่อคนที่พวกเขารักตกอยู่ในอันตราย แน่นอนว่าทั้งสองเผ่าพันธ์ุยอมยุติกฎกติกาที่มีมาช้านานเพื่อร่วมปกป้องมนุษย์ และฉากที่คัลเลน และฝูงหมาป่าร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิด

 

 

บอกจุดแข็ง และจุดอ่อนของกัน และกัน ไม่ว่าจะเป็นจุดอ่อนของแวมไพร์เกิดใหม่ที่ไม่สามารถพุ่งเข้าหาแบบตรง ๆ ได้หรือการให้เจคอบใช้กลิ่นสาปหมาป่าที่แวมไพร์ไม่ชอบพาเบลล่าไปซ่อน ทั้งนี้ก็เพื่อให้อีกฝ่ายได้เตรียมพร้อมและระวังตัวมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการถ่ายทอดให้เราได้เห็นว่าที่แท้จริงแล้วความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้เลวร้าย และพวกเขาก็ไม่ได้เกลียดชังกันขนาดนั้น ดู แวมไพร์ ทไวไลท์ ทุกภาค

ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ – แวมไพร์ – หมาป่าของพวกเขายุ่งเหยิงกว่าครั้งไหน ๆ เพราะการตัดสินใจบางอย่างของเบลล่าและศัตรูรอบทิศทำให้เอ็ดเวิร์ด และเจคอบต้องร่วมมือกันปกป้องเบลล่าท่ามกลางอารมณ์ขุ่นมัว ภาคนี้เบลล่า และเจคอบกลับมาอยู่ด้วยกัน และดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะคลี่คลายลงแล้ว ส่วนเจคอบก็รับหน้าที่คนเจ็บ และเดินออกไปตามระเบียบ แต่แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ทั้งสามต้องมาเผชิญหน้ากันอย่างเลี่ยงไม่ได้

ด้านเบลล่าก็ทำให้เราต้องกลับมาสงสัยว่าตกลงแล้วเธอชอบใครกันแน่ ส่วนตัวแล้วเราไม่ค่อยจะพอใจเบลล่าในภาคนี้สักเท่าไหร่เพราะเธอดูลังเล รักพี่เสียดายน้องเกินไปหน่อย ตอนแรกทำเหมือนว่าจะสนใจเจคอบ ทั้งการแสดงออกต่าง ๆ นานาทำให้พ่อหนุ่มหมาป่าถึงกับฝันหวาน แต่พอเอ็ดเวิร์ดกลับมาก็ไม่สนใจใยดีเขาซะงั้น แถมภาคนี้ยังมีคิสซีนให้เราได้กรี๊ดจนบ้านแทบแตกอีกด้วย

แทบจะเป็นเรื่องปกติสำหรับซีรีส์ทไวไลท์ที่ในแต่ละภาคพวกเขาจะต้องต่อสู้กับศัตรูกลุ่มใหม่อยู่เสมอ แต่ศัตรูในสองภาคก่อนหน้ารวมกันก็ยังเทียบกับ กลุ่มแวมไพร์เกิดใหม่ ที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของพวกเขาในภาคนี้ไม่ได้ เพราะแวมไพร์เกิดใหม่นั้นสามารถทำลายได้ยากกว่าแวมไพร์ปกติเพราะพวกมันแข็งแกร่ง และมีพลังล้นเหลือเพราะเลือดมนุษย์ที่อยู่ในร่างกาย เว็บหนัง 

 

สรุปเนื้อหาของหนัง The Twilight Saga: Eclipse

รวมถึงพวกมันยังกระหายเลือดอยู่ตลอดเวลาและควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของคัลเลนที่แจสเปอร์เคยเป็นผู้ฝึกแวมไพร์มาก่อนจึงรู้จุดอ่อน และสามารถสอนวิธีรับมือให้แก่คนอื่นรวมถึงฝูงหมาป่าได้ และหนึ่งในจุดอ่อนก็คือการไวต่อกลิ่นเลือดมนุษย์ทำให้เบลล่าตัดสินใจกรีดแขนตัวเองเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของไรลีย์ทำให้สามารถช่วยชีวิตเอ็ดเวิร์ดไว้ได้

หนังเพิ่มบทบาทขององค์กรโวตูรี่เข้ามา ซึ่งถ้าเข้าใจง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็เหมือนองค์กรที่ควบคุมแวมไพร์ มีอำนาจเหนือแวมไพร์ทั้งปวง ก็เป็นเพราะว่าเบลล่า ไม่ยอมเลือกซะทีว่าจะเปลี่ยนเป็นอะไร ทำให้โวตูรี่หาข้ออ้าง มีบทบาท และเข้ามากดดันเรื่อย ๆ

ที่น่าหงุดหงิด คือ พระเอกอยากจะเก็บความบริสุทธิ์ของนางเอกไว้ เพราะคงกลัวจะยั้งมือไม่อยู่ เพราะตัวเองเป็นแวมไพร์มีพละกำลังสูง ซึ่งเบลล่าก็ดูจะต้องการพระเอกเหลือเกิน ภาคนี้แอบหมั่นไส้นางเอกเล็กน้อย รีวิวหนังดราม่า

ชื่อภาพยนตร์ : The Twilight Saga: Eclipse / แวมไพร์ ทไวไลท์ 3
ผู้กำกับ : David Slade
นักแสดง : Kristen Stewart, Robert Pattinson, Taylor Lautner
ผู้เขียน : Melissa Rosenberg (screenplay), Stephenie Meyer (novel)
แนวภาพยนตร์ : Drama, Fantasy, Romance
ความยาว : 124 นาที
เรท : MPAA: PG13, ไทย: น15+
บริษัท : Summit Entertainment