รีวิว Joker วันนี้จะพาทุกท่านมารู้จักกับ คำว่าJokerชื่อ นี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็น ตัวตึง แห่งโลกภาพยนตร์ตัวละครหนึ่ง สำหรับใครหลายคน ตัวละครคู่ปรับตลอดกาลของ แบทแมน คงเป็นหนึ่งในนั้น ไม่ว่าจะด้วยชื่อเสียงของคอมมิค DC ชุดนี้ มาตรฐานการแสดงของนักแสดงคนก่อนหน้า ที่ทำมาตรฐานเอาไว้สูงลิบจนหลายคนที่มารับช่วงต่อ
ที่ตัวละครต้องเจอกับสภาพที่ดำดิ่งเลยทีเดียว ฉะนั้นแล้วด้วยความคาดหวังที่สูงมากขนาดนี้ การที่หนังสามารถครองใจผู้ชมและนักวิจารณ์ พร้อมทั้งกวาดรางวัลมากมายหลายสถาบัน จึงเป็นเครื่องการันตีแล้วว่า Joker ฉบับนี้ มีความดีงามมากแค่ไหน สามารถเข้ารับชมหนังฟรีได้เลยที่ ดูหนังใหม่
รีวิว Joker หนังดราม่า เรื่องราวอาเธอร์ชายหนุ่ม ที่จิตใจไม่ปกติแตกต่าง
รีวิว Joker คาแรคเตอร์ของตัวละครทำออกมาได้ดีมาก ๆ
หนังเรื่องนี้ Joker หลังจากดูจบ แต่เรายังคงจำเขาได้ไปตลอด อาร์เธอร์ เฟล็ก AKA โจ๊กเกอร์ สิ่งหนึ่งที่หนังทำออกมาได้ดี โดยค่ายวอร์นเนอร์ทำได้อย่างดีเสมอมานับตั้งแต่ไตรภาค Dark Knight ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน คือการเป็นหนังที่ดาร์กเข้ม จริงจังทั้งความสมจริงและดราม่า
ในการทำคาแรคเตอร์ของตัวละครทำออกมาได้ดีมากๆและวิช่วลที่ตระการตาในยุคของ แซ็ก ชไนเดอร์ ซึ่งด้วยการไล่ตามความสำเร็จและกดดันจากมาร์เวล ทำให้ยังทำยิ่งเป๋หนักจากการทอดทิ้งแนวทางการสร้างตัวละครมิติเชิงลึก
ซึ่งก็ไปเป็นแอ็กชันผาดโผนผสมอารมณ์ขันสไตล์มาร์เวล และเราจะไปขำได้ยังไงเพราะสวนทางดราม่าที่ยังพยายามยึดไว้ด้วย เลยกลายเป็นการใส่ดราม่าแบบฉาบฉวย
และพลอตที่ยัดเยียดให้เกิดดราม่าเสียแทน ที่ผู้ชมจะสมัครใจอิน แม้ในยุคของ Wonder Woman และ Aquaman จะเริ่มลงตัวมากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังห่างไกลจากการเป็นดราม่าเข้มขึงที่เคยเป็นรากฐานของดีซีจริง ๆ
มาถึงตรงนี้ก็ต้องขออภัยในการที่ต้องเทียบกับทางมาร์เวล เพื่อให้เห็นว่านี่เป็นความกล้าขนาดไหนของวอร์นเนอร์ที่อาจยอมทิ้งรายได้มหาศาลจากการทำตามมาร์เวลไปเพื่ออนุมัติสร้างหนังเรื่องนี้ ติดตามการรีวิวของเราได้เลยที่ หนังดราม่า
ในทั้งเรื่องตัวหนัง Joker โฟกัสอยู่กับ อาเธอร์ และประเด็นที่ว่า การที่คนหนึ่งคนจะกลายเป็นคนบ้าเนี่ย มันต้องผ่านอะไรมาบ้าง ซึ่งหนังสามารถทำออกมาได้อย่างลึกซึ้งพอที่จะทำให้คนดูคล้อยตามไปได้ง่ายๆในชนิดที่ว่าเหมือนผ่านเหตุการณ์นั้นมากับตัว
ทั้งเรื่องสังคมที่ไม่ใยดี สภาพสิ่งแวดล้อมที่สกปรก การแบ่งชนชั้น เรื่องตัวตน หนังนำสิ่งพวกนี้มาหลอมรวมกันและสะสมๆให้คนดูได้เครียดและเข้าถึงตัวละครโจ๊กเกอร์ที่โดนสังคมย่ำยีจนไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
และหนังสามารถนำอารมณ์ที่ให้คนดูสะสมตลอดเรื่องมานั้น ระเบิดอารมณ์ออกมาได้ในตอนท้ายได้ทรงพลังและน่าจดจำที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีหนังเรื่องไหนทำได้ถึง
แถมหนัง Joker 2019 ยังสามารถดึงด้านที่มืดที่สุดของจิตใจคนดูอย่างเราออกมาได้อีกด้วย ผมดูไปหัวเราะไปยิ้มไปกับความรุนแรงที่หนังนำเสนออยู่ทั้งที่ตัวผมก็รู้อยู่ว่าสิ่งนี้มันเป็นสิ่งไม่ดี สิ่งที่แย่แต่ทำไมไม่รู้เหมือนกันอยู่ๆผมก็ยิ้มออกมาหัวเราะออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย
เรื่องย่อของเรื่องนี้ Joker
มาในส่วนของเรื่องราวในเรื่องนี้ โจ๊กเกอร์ เป็นเรื่องของอาร์เธอร์ ตอนแรกนั้นเขาเป็นคนที่ตั้งใจทำมาหากินน่าสงสารมากเลยทีเดียว เพราะว่าต้องเผชิญหน้ากับความโหดร้ายทารุณทุก ๆ รูปแบบ
และสังคมที่เต็มไปด้วยการเหยียดหยามไม่ยอมรับ เขาต้องเผชิญกับความอ้างว้างจนเปลี่ยนเขาจากที่เป็นคนอ่อนแอกลายเป็นคนโหดเหี้ยม เขารับจ้างแต่งชุดตัวตลกรายวัน
จนมาถึงตอนหนึ่งที่เขาอยากจะโชว์ตลกเดี่่ยวตามความฝันของเขา แต่กลับพบว่าตัวเองต่างหากที่เป็นเรื่อง นิสัยของโจ๊กเกอร์ ตลก เขาไม่เป็นตัวของตัวเองเวลาที่มีผู้คนอยู่รายล้อม ซึ่งเห็นได้จากเสียงหัวเราะที่ควบคุมไม่ได้และดูไม่เหมาะสม ยิ่งเขาพยายามควบคุมเท่าไหร่มันก็ยิ่งแสดงออกมามากขึ้น
จนทำให้เขาแสดงความเยาะเย้ยและความรุนแรงออกมา อาร์เธอร์เขาได้ใช้เวลาผ่านไปกับการดูแลแม่ที่สุขภาพไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่นัก และไขว่คว้าตามหาคนที่เหมาะจะเป็นพ่อซึ่งเขาไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่นักธุรกิจมหาเศรษฐี โธมัส เวย์น
และวันนึงได้รับเชิญไปออกรายการทีวี โดยพิธีกร ที่ชื่อว่า เมอร์เรย์ แฟรงค์ลิน เขาได้ค้นพบตัวเองว่าน่าจะอยู่ระหว่างโลกแห่งความจริงกับความบ้าคลั่ง การตัดสินใจที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียวกลายเป็นชนวนเหตุที่นำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงมากมาย
รีวิว โจ๊กเกอร์ เป็น หนังแนวดราม่า จิตวิทยา แบบดำดิ่งเป็นอย่างมากเลยจริงๆ ใครดูแล้วอาจจะเป็นโรคประสาท ที่มีแต่เสียงปืนและเลือดลอยคละคลุ้งในอากาศ ซึ่งเป็นสายทางหนังประกวดรางวัล เวทีที่ไม่น่าพลาดคงเป็นเวทีลูกโลกทองคำ แต่สำหรับออสการ์ก็เรียกว่ามีลุ้นไม่น้อยทีเดียว
ซึ่งจะว่าก็น่าเสียดายแทนแฟนหนังมาร์เวลที่ไม่สนใจในการทำหนังแนวคว้ารางวัลสาขาหนังยอดเยี่ยม ยิ่งความอ่อนไหวของดิสนีย์ที่ไม่ชอบเล่นประเด็นสุ่มเสี่ยง
เลยขนาดเคยไล่ผู้กำกับอย่าง เจมส์ กันน์ ออกจากค่ายมาแล้วเพราะผลการกระทำในอดีตที่แทบไม่ควรเอามาเป็นประเด็นอีก
หนัง โจ๊กเกอร์ สามารถคว้ารางวัลหนังยอดเยี่ยม
และมันคนละแนวกับ ค่ายมาร์เวล ก็เน้นรายได้ มาก ๆ คนทุกวัยชอบดูมากกว่ารางวัลอยู่แล้ว จึงไม่มีวันคิดจะทำหนังสไตล์ของเรื่องนี้ได้สำเร็จแน่นอน
ซึ่งดีไม่ดีทำแล้วจะเป๋จนเพี้ยนไปหมดด้วย นี่จึงต้องยอมรับในความกล้าของผู้บริหารของค่ายวอร์นเนอร์มาก ๆ ที่กล้าเสี่ยงเอาตัวละครดังมาทดลองกับแนวทางหนักหน่วงเช่นนี้
หนัง โจ๊กเกอร์ เรื่องย่อ สามารถคว้ารางวัลหนังยอดเยี่ยมมากมายเลยนะ สิงโตทองคำ จากการที่เข้าประกวดมา พร้อมการยืนปรบมือยาวนานของผู้ชมหลายนาที ซึ่งคงเป็นเพียงระฆังสัญญาณแรกในการลุยเวทีรางวัลใหญ่ในปีนี้ของหนังที่อาจตามรอยรุ่นพี่
อย่าง The Shape of Water ในปี 2017 และ Roma ในปี 2018 ซึ่งล้วนเคยคว้ารางวัลสิงโตทองคำก่อนไปชนะรางวัลใหญ่ในเวทีออสการ์สำเร็จมาแล้วทั้งคู่ก็เป็นได้ ต้องยอมรับว่าก่อนดูหนังมีความแคลงใจ และคิดไปล่วงหน้าว่าอาจไม่ชอบตัวหนังไปเลยก็ได้
แต่พอเข้าไปดูแล้วนั้นก็ต้องพูดโดยรวมว่า หนัง Joker ข้อคิด ประสบความสำเร็จอย่างมากในการพาเราจมดิ่งลงไปในตัวละครนำอย่าง อาร์เธอร์ เฟล็ก อย่างถอนตัวไม่ขึ้น
เราจึงทั้งเข้าใจ ต่อต้าน เห็นใจ ขัดแย้ง อยากโอบกอดเขา และดุด่าเขาไปพร้อมกัน และเหนืออื่นใดมันคือประสบการณ์มหัศจรรย์ที่เราจะได้เห็น วาคีน ฟินิกส์ ลอกคราบทีละชั้นจนกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดนามโจ๊กเกอร์ในที่สุด
โดยที่หนังเรื่องนี้ Joker เรื่องย่อ เป็นผลงานชิ้นเอก ของ ทอดด์ ฟิลลิปส์ ผู้กำกับชื่อดังที่สร้างชื่อตัวเองมาจากหนังแนวคอมเมดี้ไตรภาคอย่าง The Hangover นี่จึงเป็นการผันตัวมาทำหนังดราม่าหนักหน่วงจริงจัง
โดยเฉพาะเป็นการนำคาแรกเตอร์จากคอมิกดังมาดัดแปลงครั้งแรกของเขาด้วย สิ่งที่ต้องชื่นชมผู้กำกับอย่างมากคือ วิสัยทัศน์ด้านการนำเสนอ ทั้งฉาก ภาพ วิช่วล ที่พยายามให้นึกถึงนิวยอร์กในยุค 1970 อันเป็นปีแห่งความสับสนวุ่นวาย เส็งเคร็ง กักขฬะ
หนัง โจ๊กเกอร์ แนวจิตวิทยา
Joker ตัวละคร และผู้คนแสวงหาคุณค่าในความดีงาม ในตัวเอง ในตัวผู้อื่น เป็นยุคแห่งการหลงทิศหลงทาง ทั้งสงครามเวียดนาม คดีวอร์เตอร์เกต สงครามเย็น ลัทธิคลั่งศาสนา การนำยุคที่ถูกต้องมาสู่การสร้างฉากหลังให้ตัวละครที่ถูกตัว คือความสำเร็จที่งดงามที่สุด
ยังไม่รวมว่างานด้านภาพและวิช่วลต่าง ๆ ทำออกมาได้อย่างงดงามในความล่มสลาย งดงามในความรุนแรง และงดงามดั่งหัวใจเลวทรามใสซื่อของตัวละครนำ ทอดด์ และ สก็อตต์ ซิลเวอร์ 2 คน ร่วมช่วยกันเขียนบทรางวัลออสการ์จากหนัง The Fighter ในปี 2010 เลือกนำจิตวิเคราะห์มาสู่ตัวละคร
Joker สะท้อนสังคม พวกเขามีความสามารถที่จะเขียนบทให้ตัวละครลงทีละชั้นได้อย่างที่คนไม่ต้องเรียนจิตวิทยามากมายก็เข้าใจหัวจิตหัวใจอันน่าเวทนาของตัวละครได้ มีดที่เลาะคราบของตัวละครออกมีตั้งแต่ สังคมที่ข่มเหงเอารัดเอาเปรียบคนอ่อนแอ
ด้วยความที่มีความผิดปกติทางได้จิตใจ ความถูกละเลยไม่แยแสจากทั้งคนและจากทั้งรัฐ ความเชื่ออันหลงผิด ความหวังอันจอมปลอม ความรักที่แท้เพียงการหักหลังทรยศ
และคุณค่าความภูมิใจในตนเองที่ตกต่ำต้อยแดดิ้นยิ่งกว่าก้นบุหรี่ที่ถูกคายทิ้งแล้วเอาเท้าขยี้ซ้ำ มันคือการตกต่ำลงเรื่อง ๆ ของตัวละครไปพร้อมกันกับการสูญสลายความศรัทธาในความดีงามความถูกต้องใด ๆ ทั้งมวล
และหนัง Joker ผู้กำกับ สร้างตัวละครโจ๊กเกอร์ บนความคิดที่ยากมาก เพราต้องสร้างให้ เขาคือตัวละครที่ไร้ตัวตน ไม่มีอดีตที่ชัดเจนว่าคือใคร มีที่มาที่ไปเช่นใด เป็นสุญญากาศ เป็นความกลวงของสังคม เป็นความบ้าคลั่งไร้ทิศทาง และเป็นฮีโร่ของสังคมป่วย ๆ ที่พิทักษ์ความยุติธรรมอันเจ็บป่วยด้วยวิธีการอันเจ็บป่วยพร้อมกัน
รีวิว Joker สร้างบทแสดงที่ดีมาจากคอมิกทุกเล่ม
ตอนที่ดูเรื่องนี้ในตอนแรกรู้ได้เลยว่าทอดด์กับซิลเวอร์ได้สร้างบทแสดงที่ดีมาจากคอมิกทุกเล่มใว้เป็นอย่างดี ก่อนที่จะเรียบเรียงสร้างสรรค์ระหว่างทางเพื่อบรรลุผลตอนท้าย จากเรื่องราวที่แปลกใหม่ไม่คุ้นเคยสู่ตอนจบที่แนบเนื้อเดียวกับตำนานในใจของผู้อ่านทุกคน
การสร้างหนังเรื่องนี้ Joker สปอย ยังคงลงลึกไปในประเด็นความโหยหา พ่อ ที่ผู้กำกับพยายามให้เขาคิดถึงพ่อในจินตนาการโดยที่จะไม่เคยได้พบเจอไปซ้อนทับกับไอดอล
ในชีวิตจริงทั้ง เมอร์เรย์ แฟลงคลินส์ พิธีกรเจ้าของรายการทอล์กโชว์ชื่อดังที่อาร์เธอร์ดูมาแต่เด็ก ตลอดจน โทมัส เวย์น มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยอันจะทำให้ทุกข์ในความยากจนของอาร์เธอร์และแม่ปลิวไปได้เพียงแรงลมผิวปากของโทมัสเท่านั้น
เพียงประเด็นเรื่องพ่อประเด็นเดียวเชื่อว่าก็มีคนวิเคราะห์กันได้ลึกได้ยาวเป็นบทความกันแล้วล่ะ นี่จึงเป็นความเจ๋งที่หนังเรื่องนี้ใส่ใจทุกเม็ดทุกซอกมุมของตัวละคร
และการเล่าเรื่อง วิจารณ์ หนัง Joker ผ่านตัวละครนำทั้งเรื่องจึงประสบความสำเร็จ โดยไม่ต้องพึ่งสูตรบารมีของตัวละครอื่นมาให้แฟนต้องว้าว อย่างเช่นผลงานซูเปอร์ฮีโรครอสโอเวอร์เรื่องอื่น ๆ ต้องใช้เลยก็ตาม
และได้เป็นที่ยอมรับของทุกคนเลยว่า นี่เป็นผลงานการแสดงที่ยอดเยี่ยมจนทุกคนต้องจำ ของ วาคีน ฟีนิกส์ นักแสดงผู้เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
รวมถึงเคยเข้าชิงสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก Gladiator ในปี 2000 มาแล้ว นี่น่าจะเป็นอีกครั้งที่เขาน่าจะเข้าใกล้รางวัลนี้มากที่สุด เพราะโจ๊กเกอร์กลายเป็นบทที่ยากและลำบากในการแสดง
หนังเรื่องนี้ สปอย หนัง โจ๊กเกอร์ ทุกคนมั่นใจแล้วว่าต้องออกมาดีแน่นอน เพราะว่ามีนักแสดงชั้นยอดในอดีต อย่าง แจ๊ก นิโคลสัน หรือ มาร์ก ฮามิลล์ โดยเฉพาะที่ว่าการเป็นผลงานทุ่มสุดตัวครั้งสุดท้ายแห่งชีวิตของ ฮีธ เลดเจอร์ ด้วยแล้ว
และต้องบอกว่าเป็นงานหินโคตร ขนาดว่านักแสดงที่ดีอย่าง จาเรด เลโต ที่เคยคว้าออสการ์มาแล้วก็ยังไม่ประสบความสำเร็จกับบทบาทนี้เท่าใด
เรื่องนี้แสดงให้เห็นของมุมโจ๊กเกอร์ได้ดี
แต่ก็เชื่อได้เลยนะ วาคีน ฟินิกส์ เขาทำได้อย่างชัดเจนเลย และยังเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าขนลุก จนทำให้เขาได้ กลายเป็นโจ๊กเกอร์ได้อย่างเต็มตัว ใช่ เทคนิคคือเขาไม่ได้พยายามจะเป็นโจ๊กเกอร์แต่ต้น
Joker pantip หากแต่เป็นคนธรรมดาที่มีความผิดปกติแตกต่างจากคนอื่น ซึ่งทำให้เราเข้าใจและอินไปกับความใกล้เคียงมนุษย์ทั่วไปได้ จนสุดท้ายเขาค่อย ๆ กลืนยาที่เรียกว่าอุปสรรคและโชคชะตาลงไปในท้องทีละเม็ด ก่อนจะกลายร่างเป็นตัวละครวายร้ายที่โด่งดังที่สุดในโลกคนหนึ่งอย่างงดงาม
จุดสังเกตที่เราต้องทึ่งในรายละเอียดการถอดเทคนิคทางการแสดงของวาคีน ฟินิกส์ มีตั้งแต่สีหน้า ดวงตา กายภาพ ท่าทางต่าง ๆ โดยเฉพาะการเดิน การวิ่ง การใช้มือ การหัวเราะ
คือทุกสัดส่วนการใช้กายและใจของเขามันถอดตัวละครออกมาเป็นชิ้น ๆ แล้วประกอบใหม่อยู่ซ้ำ ๆ จนอาร์เธอร์กลายเป็นโจ๊กเกอร์ได้ เชื่อว่าสายการแสดงมานั่งดูคงต้องจดเล็กเชอร์รายฉากกันเลยทีเดียว
และยังคงเป็น หนัง โจ๊กเกอร์ pantip ที่เราอาจไม่ได้รู้สึกมีความสุขไปกับมันตลอดเวลา ไม่ได้หัวเราะอะไรเหมือนกับชื่อหนังเลยนะ ไม่ได้ตื่นตาตื่นใจระเบิดตูมตามเร้าใจ ไม่ใช่หนังฮีโรในกระแสใด ๆ มันอาจเป็นหนังของคนธรรมดาที่เจอวันแย่ ๆ
และผิดเพี้ยนจนกลายเป็นขบถต่อสังคมอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ มันจึงเป็นหนังที่อิ่มในความรู้สึก อิ่มในสมองที่ต้องการบทเรียนรู้สำคัญผ่านหนัง หนังที่เรานั่งนิ่งอึ้งเมื่อจบ พลันเมื่อรู้สึกตัวก็อยากปรบมือให้มันยาว ๆ ยาวนานเท่าที่จะทำได้