รีวิว The King

รีวิว The King

[section label=”H1″]

รีวิว The King จากนักเขียนบทซีรีส์มือฉมังอย่างคิมอึนซุก ซึ่งคุณสามารถดูซีรีส์เรื่องนี้ได้ใน Netflix ซีรีส์เรื่องนี้อาจจะได้รับกระแสที่ไม่ปังมากนักแต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ในเรื่องนี้อีมินโฮได้แสดงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบและทำให้ผู้ชมต่างหลงรัก ถึงแม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้อาจไม่ได้รับความนิยมในระดับสากลมากนัก แต่ก็ยังติดอันดับ Top10 ซีรีส์ที่น่าติดตามในหลายประเทศ ดูหนังออนไลน์ 4k

อาจไม่ใช่ซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกที่พยายามจะดึง ‘ทฤษฎีโลกคู่ขนาน’ มาใช้เป็นแกนหลักในการดำเนินเนื้อเรื่อง เพราะไม่ว่าจะเป็น Signal , Time Slip Dr. Jin , W two worlds ฯลฯ ต่างก็เป็นซีรีส์เกาหลีชั้นเยี่ยมที่เล่าเรื่องราวในโลกคู่ขนานให้ออกมาลึกซึ้งและสนุกสนาน จนสร้างความประทับใจให้คนดูได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซีรี่ย์ดราม่า

แต่ในขณะเดียวกันก็คงไม่มีซีรีส์เรื่องไหนที่กล้าบ้าบิ่นมากพอจะรื้อประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริงของชาติตัวเองกลับไปจนถึงจุดเปลี่ยนสำคัญบางอย่างในอดีต แล้วล้างไพ่ทั้งหมดที่มีเพื่อสร้างโลกอีกใบขึ้นมาใหม่ โลกที่ไม่เคยมีอยู่จริง โลกที่ไม่มีตัวอย่างใดให้เห็น โลกที่จักรวรรดิเกาหลี (the Kingdom of Corea) ยังไม่สิ้นการปกครองภายใต้ระบอบกษัตริย์แบบทุกวันนี้ และยังคงดำรงการปกครองโดยราชวงศ์มาได้จนถึงปัจจุบัน

ซีรีส์เปิดตัวแรงที่โชว์ให้เห็นทั้งงานสร้างสุดอลังการ และพล็อตเรื่องที่น่าสนใจได้ตั้งแต่ทีเซอร์ตัวแรกที่ปล่อยออกมา ทั้งยังเป็นผลงานซีรีส์เรื่องแรกของ ‘อีมินโฮ’ ในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่โบกมือลาแฟน ๆ เข้ากรมทหารไป การกลับมาครั้งนี้ของสามีแห่งชาติจึงเข้ามาสร้างความคาดหวังเอาไว้ในใจคนดูในทันที ว่ามันจะต้องกลายเป็นอีกหนึ่งซีรีส์แห่งปีแน่นอน

[title style=”center” text=”รีวิว The King” tag_name=”h1″]

[ux_video url=”https://www.youtube.com/watch?v=mdQEIeUUgME”]

[/section]
[section label=”H2.1″]

[title style=”center” text=”รีวิว The King” tag_name=”h2″]

เป็นเรื่องของโลกคู่ขนานและการเล่นกับห้วงเวลาไปพร้อมกัน โดยเรื่องราวเปิดมาที่อนาคตก่อนเรื่องจริงจะดำเนินไปในช่วงหลัง ผ่านเรื่องเล่าของ “อีริม”  ชายปริศนาอายุ 70 ปีผู้เล่าถึงประวัติตัวเองว่ามาจากอีกโลกหนึ่ง ในช่วงปีของจักรวรรดิเกาหลี 1994 กับการแย่งชิงขลุ่ยวิเศษ “มันพาชิกช็อก” ที่มีอำนาจลี้ลับหลายอย่างแฝงอยู่ และเป็นสมบัติแห่งชาติของจักรวรรดิเกาหลีในโลกแห่งนี้ และเขาต้องสังหารน้องชายผู้ครองบัลลังค์พร้อมกับ “อีกน” หลานชายเพื่อให้ได้ของสิ่งนี้มา

[ux_image id=”5917″]

แต่แผนกลับผิดพลาดจากการปรากฏตัวอย่างลึกลับของคนผู้หนึ่งที่ได้เข้ามาช่วยชีวิตอีกอนไว้ได้ อีริมจึงต้องหนีไปและได้ข้ามประตูมิติในป่าไผ่มายังโลกปกติที่ปกครองด้วยระบบสาธารณะรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข โดยราชวงศ์เกาหลีได้สูญสิ้นไปแล้วในปัจจุบัน เขาได้มาพบตัวเองและหลายชายในโลกแห่งนี้อีกครั้งที่มีสถานะเป็นเพียงคนธรรมดา ก่อนจะสังหารทั้งคู่ลงอีกครั้ง

ในเวลาต่อมาเจ้าชายอีกนได้เสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งราชวงศ์อีสืบต่อจากพ่อ และก็พยายามตามหาหญิงสาวปริศนาที่คาดว่ามาช่วยเขาในวัยเด็ก จากการที่ป้ายห้อยคอของเธอหล่นในวันนั้น และระบุว่าเป็นตำรวจ วันหนึ่งอีกนก็ได้พบประตูมิติในป่าไผ่ และก็ข้ามประตูมาพร้อมกับม้าขาวคู่ใจมายังโลกอีกด้าน จนมาเจอกับ “จองแทอึล”หญิงสาวที่เขาตามหาในโลกแห่งนี้มาตลอดชีวิต

[/section]
[section label=”H2.2″]

[title style=”center” text=”จอมราชันบัลลังก์อมตะ โลกคู่ขนาน” tag_name=”h2″]

เริ่มด้วยการเล่าความเป็นมาของขลุ่ยวิเศษ ต่อด้วยเฉลยเหตุการณ์อย่างไม่รีรอ ใครฆ่าใคร เข้าใจง่าย แรงจูงใจครบ ไม่งง ไม่สับสน แต่มีคำถามค้างคาในหัวผุดขึ้นมากมาย ด้วยความอยากรู้

ได้ปรับแนวคิดการแสดงแบบหลายมิติไม่ใช่แค่นำเสนอเรื่องราวความโรแมนติก แต่ยังรวมถึงการแก้แค้นด้วย ซีรีส์นี้หมุนรอบอาณาจักร Emporer of Kingdom of Corea อีกอนเป็นพยานเพียงหนึ่งเดียวที่เห็นเหตุการณ์ในการตายของพ่อของเขาด้วยน้ำมือของอีริมลุงผู้ทรยศ ในขณะที่เขารอดตายอย่างหวุดหวิดตั้งแต่ยังเป็นเด็ก อีกอนเชื่อว่าอีริมได้พบกับจุดจบของเขาแล้ว แต่ไม่ใช่เลยเพราะอีริมหายไปยังโลกใบใหม่โดยมีขลุ่ย “มันพาชิกจ็อก” เป็นตัวนำทาง

[ux_image id=”5919″]

เนื้อเรื่องจะนำเสนอเรื่องราวความเกี่ยวข้องกันของผู้คนในโลกของอาณาจักร Emporer of Kingdom of Corea และสาธารณรัฐเกาหลี พล็อตเรื่องนี้ทำให้นักแสดงนำมีแพลตฟอร์มเพื่อแสดงให้เห็นถึงตัวละครสองตัวที่แตกต่างกัน แต่มีข้อยกเว้นในตัวละครของอีกอนที่เขามีตัวตนอยู่ในโลกเดียวเท่านั้น ขอบอกเลยว่าความแตกต่างในลักษณะเฉพาะทำให้การแสดงคุ้มค่ากับเวลาของคุณ

[/section]
[section label=”H2.3″]

[title style=”center” text=”จุดเด่นของเรื่อง” tag_name=”h2″]

จุดเด่นของเรื่องที่เกินหน้าทุกอย่างคือการกลับมาของ นายแบบดาราหนุ่มรูปหล่อชื่อเสียงโด่งดังทั้งในเกาหลี จีน รวมถึงเอเชียจากผลงานการแสดงดังๆ อย่างเรื่อง The Heirs ซึ่งเขาได้หยุดการแสดงเข้าไปเป็นทหาร ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2560 ปลดประจำการเมื่อปี 2562 ก็ได้มารับบทเป็นพระเอกในซีรีส์นี้เป็นผลงานชิ้นแรก ซึ่งหลังจากได้รับชมก็ยอมรับว่าสมกับบทบาทมาก เนื่องจากต้องเล่นเป็นจักรพรรดิหนุ่มที่ต้องใช้ชีวิต 2 โลก มีบุคลิกนุ่มลึกอ่อนโยน แต่ก็เด็ดขาดแข็งกร้าวไปพร้อมกัน ซึ่งตัวซีรีส์หลักๆ ก็ขาย Lee Min-Ho จนเด่นเกินหน้ามากกว่าเนื้อเรื่องแฟนตาซี และก็เป็นตัวดึงดูดผู้ชมให้มาดูซีรีส์เรื่องนี้อย่างแท้จริง

การปกครองภายใต้ระบอบกษัตริย์ เราจึงจะได้เห็นอารยธรรมใหม่ บรรยากาศใหม่ของจักรวรรดิเกาหลี ที่ยังคงกลิ่นอายเดิมที่เราคุ้นเคยไว้ได้อย่างดี แต่ก็มีรสชาติใหม่ ๆ ผสมเข้ามา ทั้งราชวังที่สวยงามตระการตาแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหน รถรางใจกลางเมืองหลวงพร้อมสภาพเมืองที่เปลี่ยนไป หรือแม้กระทั่งพระราชพิธีต่าง ๆ ก็สร้างขึ้นมาใหม่ได้อย่างงดงามและสมจริงจนน่าขนลุก

และเมื่อพูดถึงเรื่องราวของโลกคู่ขนานแล้ว แน่นอนว่าอีกหนึ่งความน่าสนใจของเรื่องนี้ก็ต้องตกไปอยุ่ที่ปม ‘ตัวละคร’ ต่าง ๆ ที่หากว่า ตัวเราในโลกหนึ่งเป็นคนแบบนี้ แต่ตัวเราอีกคนในอีกโลกหนึ่งก็จะกลับเป็นคนละขั้วกันเลยทีเดียว เช่น นิสัยใจคอ พื้นฐานตระกูลและครอบครัว รวมไปถึงชนชั้นทางสังคมที่ต่างเป็นคู่ตรงข้ามของกันและกันเหมือนกับ ‘หยินหยาง’ ทำให้สามารถสอดแทรกประเด็นสังคมสุดฮอตอย่างเรื่อง ‘ความเหลื่อมล้ำในสังคม’ ในเนื้อเรื่องได้อย่างแนบเนียนและน่าสนใจ ส่งผลให้ซีรีส์เรื่องนี้ดูมีคุณค่า และดูคุ้มค่าต่อการรับชมมากเลยทีเดียว

[ux_image id=”5920″]

ภาพเคลื่อนไหวที่ทำเป็นเหมือนสองมิติคู่ขนาน ดูแปลกใหม่ น่าตื่นเต้น บวกกับดนตรีที่ใช้ เร้าอารมณ์ได้ดีเยี่ยม ทำให้ไม่อยากข้ามได้ นับถือเลยจริง ๆ อยากดูตัวเนื้อเรื่องแล้ว

อย่างที่เกริ่นเอาไว้ในช่วงแรกว่านี่คือซีรีส์ที่งานสร้างอลังการ ภาพสวยสมจริง มุมกล้องปราณีต และนักแสดงก็ดูสวยหล่อน่ามองไปหมด บ่งบอกให้เห็นถึงความพิถีพิถันตั้งใจของทีมงาน จนในใจก็แอบหยวน ๆ ให้กับความพังในบางจุดของเนื้อเรื่องได้อยู่ ถึงแม้ว่าการดำเนินเรื่องยังคงไม่คืบหน้าเท่าไหร่นัก แต่ทุกอย่างก็เริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางบ้างแล้วใน Ep. 3 – Ep. 6 ที่ซีรีส์ยังคงทำหน้าที่หย่อนปมปริศนาเพิ่มเติม

[/section]
[section label=”H2.4″]

[title style=”center” text=”พลอตเรื่อง” tag_name=”h2″]

ตัวเรื่องหลังจากรับชมช่วงแรกยังค่อนข้างธรรมดามากไปสำหรับการวางตัวเป็นแนวเรื่องแฟนตาซีโลกคู่ขนานกับการท่องเวลา ซึ่งพล็อตเรื่องแนวนี้ทำกันมาเกร่อมากๆ และมีเหตุมีผลอธิบายอะไรได้มากกว่าเรื่องนี้ที่จู่ๆ ก็เปิดประตูมิติมาเลย

หรือการวางเรื่องว่ามีการย้อนเวลาจากอีกโลกไปอีกโลก เพื่อช่วยตัวเอกและมีการทิ้งของสำคัญไว้ให้ตามหา ก็เป็นอะไรที่เรื่องอื่นใช้กันมาเยอะแล้ว ทำให้การรับชมจนถึงปัจจุบันยังไม่รู้สึกว้าวอะไรกับบทได้เลย มีเพียง CG ในส่วนแฟนตาซีต่างๆ แต่ก็ไม่ถึงขนาดเนี๊ยบ

[ux_image id=”5921″]

การเน้นโยงกับเรื่อง อลิซในแดนมหัศจรรย์ (Alice in Wonderland) ให้มีคนใส่ชุดกระต่ายนำทางพระเอกไปอีกโลกยิ่งดูประหลาดแบบการ์ตูน ไม่เข้ากับเรื่องที่เปิดมาตอนแรกกับฉากการก่อกบฏนองเลือดเลย แต่มีจุดที่น่าสนใจคือการวางตัวร้าย “อีริม” (มีสถานะเป็นลุงของพระเอก แต่ถูกปลดออกจากราชวงศ์แล้ว) ให้มาอยู่ในโลกปกติของเราเพื่อวางแผนการชิงอำนาจกลับมา โดยมีอำนาจอิทธิพลอยู่แบบลับๆ ทั้ง 2 โลก

การเซทโลกสมมติของจักวรรคเกาหลีในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1994 และ 2019 ซึ่งต้องใช้จินตนาการสูงพอสมควรว่าการที่ราชวงศ์เกาหลีไม่สิ้นการปกครองมาถึงปัจจุบันจะเป็นอย่างไร  ซึ่งก็มีการเซ็ทฉากผสมกับการใช้ CG รวมกัน มีภาพมุมสูงโชว์ให้เห็นของสิ่งก่อสร้างอย่างในจินตนาการอย่างพระราชวังปูซาน มีการถวายการอารักขาสมเด็จพระจักรพรรดิแบบเข้มงวดทุกภารกิจที่ไป

ซึ่งสถานะราชวงศ์ในโลกนี้ได้รับความนิยมจากประชาชนมาก เรียกว่าเป็นหน้าตาของประเทศ มีข่าวลงสื่อให้คนได้จิ้นจับคู่นายกรัฐมนตรีหญิงเข้ากับจักรพรรดิอีกน ที่ยังครองความเป็นโสดแม้อายุจะมากถึง 30 ปีแล้วก็ตาม เป็นบทสมทบที่มาเกี่ยวข้องกับเรื่องความรักกับพระเอก เพราะเธอพุ่งเป้าต้องการเป็นมเหสีให้ได้อย่างชัดเจนตั้งแต่แรกเริ่ม

[/section]
[section label=”H3.1″]

[title style=”center” text=”รีวิว The King”]

ซีรีส์เรื่องนี้แตกต่างจากซีรีส์เกาหลีส่วนใหญ่ที่แสดงให้เห็นตัวละครหญิงที่อ่อนโยนและอ่อนแอ ซีรีส์นี้มีนักแสดงนำหญิงที่กล้าหาญและมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง สำหรับคิมโกอึนเธอรับบทเป็นนักสืบจองแทอึล ฉากต่อสู้ของเธอนั้นยอดเยี่ยมมากและเธอก็เป็นผู้หญิงที่ศรัทธาในตัวเองไม่ตกหลุมพรางของเจ้าชายอีกอนผู้ร่ำรวยในการพบกันครั้งแรก แต่เธอกลับจับเขาเพราะกีดขวางการจราจร

แม้แต่ในราชวงศ์ก็ยังมีผู้หญิงที่มีอิทธิพล เช่น หัวหน้าศาลโนห์อ๊กนัมซึ่งมีบทบาทสำคัญในชีวิตของจักรพรรดิและความคิดเห็นของเธอมีความสำคัญต่อกษัตริย์มากที่สุด นอกจากเธอแล้วนายกรัฐมนตรีกูซอรยองก็ยังเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก เธอเคยเป็นลูกสาวของคนขายปลาที่ประสบความสำเร็จด้วยสติปัญญาของเธอ แต่ความงามด้วยสมองนี้ก่อให้เกิดภัยคุกคามเล็กน้อยต่ออนาคตของกษัตริย์ในตอนสุดท้าย

[ux_image id=”5923″]

ในเรื่องนี้อูโดฮวานได้รับบทเป็นโจยององครักษ์ของจักรพรรดิอีกอนและรับบทเป็นโจอึนซอบในยุคปัจจุบันซึ่งเป็นพนักงานบริการสาธารณะในสำนักงานข้าราชการพลเรือนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับเรื่องนี้หลายคนอยากจับคู่ให้อีโฮวานกับอีมินโฮเพราะเคมีเข้ากันดี

แฟน ๆ ของซีรีส์ส่วนใหญ่ยอมรับว่า The King: Eternal Monarch เป็นซีรีส์ที่น่าจับตามองมาก รายละเอียดของทุกฉาก องค์ประกอบในเฟรมและสีสันของภาพทำให้ซีรีส์ตรึงใจของคุณ ชะตากรรมของราชาอีกอนจะเป็นอย่างไร? จองแทอึลจะละทิ้งโลกของเธอและกลายเป็นราชินีแห่งอาณาจักรโคเรียหรือไม่? ชะตาของอีกอนเป็นไปตามโชคชะตาของเขาตามที่หัวหน้าศาลบอกหรือเปล่า? หรือว่ามันเป็นกับดัก คุณจะต้องไปไขคำตอบกันเอาเอง

[/section]
[section label=”H3.2″]

[title style=”center” text=”บทสรุปความน่าสนใจของเรื่อง”]

เรื่องดูเป็นแนวแฟนตาซีไซไฟแต่ทำออกมาดูธรรมดาทั่วไป และก็ไม่เดินหน้าเรื่องราวไปสักเท่าไหร่ วนๆ กับการขายความหล่อเท่ของพระเอก เพราะเรื่องถูกวางเป็นแฟนตาซีโรแมนซ์เป็นหลัก ซึ่งในสายโรแมนติกตัวหนังทำออกมาได้ดีอยู่แล้ว มีฉากชวนฝันเยอะ

มีเนื้อหาที่น่าติดตามจากการที่พระเอกพาองค์รักษ์ข้ามมาเจอตัวเองอีกฝั่งมาเจอตัวเอง ก็กลายเป็นสายฮาและเป็นตัวดึงดูดให้คนดูชวนติดตามตลอด พร้อมกับเริ่มเดินหน้าสืบสวนหาตัวร้ายในโลกปกติ และก็เริ่มเผยให้เห็นแผนการหลักของตัวร้ายอีริม พร้อมทั้งเปิดตัวละคร “คนใส่ชุดฮู้ดกระต่าย” ที่ค้างไว้เป็นปริศนาในตอนเริ่มเรื่อง

[ux_image id=”5922″]

ตอนจบของเรื่องหลังพระเอกจัดการอีริมได้ กลายเป็นนางเอกก็ยังมีความทรงจำอยู่เหมือนเดิม เนื่องจากเทพขลุ่ยวิเศษ “มันพาชิกช็อก” ตัดสินใจไม่ตัดเชือกแห่งโชคชะตา (เชือกลูกดิ่ง) ของทั้งคู่ ทำให้พระเอกต้องออกตามหานางเอกไปทุกโลกคู่ขนานจนเจอ จากนั้นก็จบแบบทั้งคู่แอบมาพบกันทุกวันหยุดท่องเที่ยวไปในโลกต่างๆ จนแก่เฒ่า (แต่ไม่ได้เคลียร์เรื่องสถานะมเหสีของนางเอก)

[/section]